นักวิเคราะห์ให้ความเห็นต่อเหตุการณ์จับกุมชายชาวเลบานอน Atris Hussein ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นสมาชิกกลุ่มก่อการร้าย Hezbollah ที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังจากที่สถานฑูตอเมริกาในประเทศไทยออกประกาศเตือนนักท่องเที่ยวอเมริกันให้ระวังภัยก่อการร้ายในประเทศไทยว่า ทางการไทยไม่พอใจนักกับการออกประกาศเตือนครั้งนี้ เนื่องจากส่งผลกระทบต่อการค้าและการท่องเที่ยวของไทย
คุณ Rohan Gunaratna หัวหน้าศูนย์วิจัยด้านความรุนแรงทางการเมืองและการก่อการร้ายระหว่างประเทศในสิงคโปร์ระบุว่ากลุ่มก่อการร้าย Hezbollah ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเป็นภัยคุกคามที่แท้จริงต่อประเทศไทยและภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
นักวิเคราะห์ผู้นี้บอกว่ากลุ่ม Hezbollah ในเลบานอนมีปฏิบัติการต่อเนื่องในประเทศไทยมานานหลายปีแล้ว ทางการไทยพบว่าที่ผ่านมากลุ่ม Hezbollah ได้วางแผนและเตรียมการโจมตีในประเทศไทยและประเทศอื่นในภูมิภาคนี้หลายครั้ง เช่นแผนโจมตีหรือลอบวางระเบิดสถานฑูตอิสราเอลและสถานฑูตอเมริกาในสิงคโปร์และประเทศไทยเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน ซึ่งในช่วงนั้นไทยถูกกล่าวหาว่าให้ความร่วมมือกับสหรัฐในการจับกุมคุมขังผู้ก่อการร้ายโดยเป็นหนึ่งใน Black Site หรือสถานที่ที่หน่วยสืบราชการลับของสหรัฐหรือ CIA ใช้คุมขังหัวหน้าผู้ก่อการร้ายไว้สอบปากคำ
คุณ Rohan Gunaratna บอกด้วยว่าความร่วมมือด้านการต่อต้านการก่อการร้ายระหว่างสหรัฐกับไทยนั้น คือส่วนสำคัญในการปกป้องประเทศไทยและประเทศอื่นๆในภูมิภาคให้ปลอดภัยจากการก่อการร้าย และว่าที่ผ่านมาสหรัฐให้การสนับสนุนด้านเงินทุนและกำลังคนผ่านโครงการอบรมต่างๆและในรูปของความช่วยเหลืออื่นๆ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งของระบบป้องกันการก่อการร้ายในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ และไทยคือส่วนสำคัญของความร่วมมือที่ว่านี้
อย่างไรก็ตาม แม้ทางการไทยได้จับกุมตัวนาย Atris Hussein ชายชาวเลบานอนผู้ต้องสงสัยว่าเป็นสมาชิกกลุ่มก่อการร้าย Hezbollah และยังพบวัตถุระเบิดต้องสงสัยว่าจะใช้ในการก่อการร้ายได้แล้ว แต่สถานฑูตอเมริกาในประเทศไทยยืนยันว่าคำประกาศเตือนภัยก่อการร้ายในไทยจะยังมีผลต่อไป