ลิ้งค์เชื่อมต่อ

Facebook เน้นย้ำจุดยืนเรื่องป้องกันการฆ่าตัวตายหลังสตรีไต้หวันปลิดชีวิตตัวเองขณะคุยทาง Facebook


สืบเนื่องจากเหตุการณ์สตรีไต้หวันฆ่าตัวตายระหว่างที่กำลังพูดคุยกับเพื่อนทาง Facebook ได้ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ถึงผลกระทบจากการใช้สื่อสังคมออนไลน์มากเกินไปและความเป็นส่วนตัวในโลกอินเทอร์เนต ซึ่งทาง Facebook ได้ออกมากล่าวเน้นย้ำถึงจุดยืนในการรณรงค์เพื่อป้องกันการฆ่าตัวตาย

เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา Claire Lin สตรีชาวไต้หวันปลิดชีวิตตัวเองในวันครบรอบวันเกิดอายุครบ 31 ปี โดยใช้วิธีรมควันตัวเองภายในห้องปิดทึบขณะที่พูดคุยกับเพื่อนๆผ่านเครือข่าย Facebook และบอกกับเพื่อนว่าเธอกำลังฆ่าตัวตาย เพื่อนชายของ Lin พบศพของเธอในเช้าวันรุ่งขึ้น ทางตำรวจสันนิษฐานว่าเธอตัดสินใจฆ่าตัวตายหลังมีปัญหากับเพื่อนชายคนดังกล่าวหลังจากพบข้อความและความเห็นทาง Facebook เกี่ยวกับการฆ่าตัวตายของเธอ ญาติพี่น้องของ Lin ต่างโศกเศร้าและโกรธแค้นที่เพื่อนๆ Facebook ของ Lin ไม่มีใครรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจว่า Lin กำลังปลิดชีวิตตัวเอง

ปัจจุบันมีชาวไต้หวันเป็นสมาชิก Facebook ราว 23 ล้านคน และ Facebook รวมทั้งสื่อสังคมออนไลน์อื่นๆได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของชาวไต้หวัน ไม่ว่าจะที่บ้าน ที่โรงเรียนหรือที่ทำงาน จนบริษัทไต้หวันหลายแห่งต้องมีคำสั่งห้ามใช้ Facebook ในที่ทำงาน

คุณ George Hou นักวิเคราะห์ด้านสื่อมวลชนที่มหาวิทยาลัย I-Shou ในไต้หวันระบุว่าจากกรณีของ Lin น่าจะทำให้ชาวไต้หวันต้องทบทวนเกี่ยวกับบทบาทของสื่อสังคมออนไลน์มากขึ้น แต่ส่วนตัวคุณ Hou เองเชื่อว่าการพยายามแยกคนรุ่นใหม่ออกจากอินเนอร์เนตหรือ Facebook นั้นไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้อง แต่ควรหาทางทำให้ผู้คนเชื่อมต่อกับเพื่อนๆทางอินเทอร์เนตมากยิ่งขึ้นและเป็นไปอย่างถูกต้องเหมาะสมมากกว่า

และในวันนี้ทางบริษัท Facebook ได้ออกมาประกาศจุดยืนของบริษัทเพื่อต่อต้านและป้องกันการฆ่าตัวตาย ด้วยการร่วมมือกับเว็บไซต์ต่างๆเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีรับมือกับปัญหาหรือความเครียดต่างๆในชีวิต รวมถึงคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ ซึ่งเวลานี้ Facebook มีบริการที่ว่านี้สำหรับผู้ใช้ในสหรัฐอยู่แล้วแต่ยังมิได้แพร่หลายไปยังประเทศอื่นๆ โดยทาง Facebook จะส่งข้อความและคำแนะนำไปให้กับสมาชิกที่ขอความช่วยเหลือเข้ามาหรือมีเพื่อนๆคนอื่นรายงานความเสี่ยงในการฆ่าตัวตายของคนผู้นั้นให้ทาง Facebook รับรู้ นอกจากนี้ Facebook ยังมีศูนย์ให้ความช่วยเหลือและเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินสำหรับผู้ต้องการความช่วยเหลือด้วย

อย่างไรก็ตามผู้บริหารของ Facebook ยืนยันว่าสิ่งที่ Facebook ไม่ทำคือการติดตามกิจกรรมทางอินเทอร์เนตของสมาชิกแต่ละคนเพื่อตรวจหาสัญญาณที่บ่งบอกถึงการฆ่าตัวตาย เพราะเป็นสิ่งที่ Facebook เชื่อว่าไม่เหมาะสมเพราะอาจล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัวของสมาชิกมากเกินไป

ถึงกระนั้นผู้บริหารของ Facebook ชี้ว่าสื่อสังคมออนไลน์คือกระจกที่สะท้อนโลกความจริง และการฆ่าตัวตายที่เกิดขึ้นในโลกความจริงแล้วมีบางส่วนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับ Facebook เช่นการโพสต์ข้อความในสเตตัสหรือคอมเม้นท์ต่างๆนั้น อาจเป็นโอกาสที่ทำให้ Facebook เองหรือเพื่อนหรือครอบครัวของคนผู้นั้นไหวตัวทัน และทำอะไรบางอย่างก่อนที่จะเกิดโศกนาฎกรรมขึ้นได้

XS
SM
MD
LG