ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ซีเรียมาถึงจุดพลิกผันครั้งสำคัญหลังการลอบสังหาร รมต.กลาโหม


นักวิเคราะห์ชี้เหตุการณ์วางระเบิดสังหาร รมต.กลาโหมซีเรียคือจุดพลิกผันที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในซีเรียในช่วงเดือนรอมฎอน

หลังเหตุการณ์ระเบิดสังหารรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมซีเรียเมื่อวันพุธ หลายฝ่ายเกิดคำถามว่าประธานาธิบดี Bashar al-Assad จะยึดกุมอำนาจต่อไปได้อีกนานแค่ไหน

ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์แห่ง American University ในกรุง Beirut ประเทศเลบานอน Hillal Khashan เชื่อว่าเวลาของ ปธน. al-Assad เหลืออีกไม่นาน และมีสัญญาณบ่งชี้ว่า ปธน. al-Assad ได้เดินทางออกจากกรุงดามัสคัสไปยังเมือง Latakia ซึ่งเป็นเมืองติดชายฝั่งทะเลและเป็นฐานที่มั่นสำคัญของกองกำลังพันธมิตรของ ปธน. al-Assad ศาสตราจารย์ Hillal Khashan ยังบอกด้วยว่าหาก ปธน. al-Assad หลบหนีไปที่เมืองนั้นจริง ก็จะเป็นการเหตุการณ์คล้ายกับที่เกิดขึ้นในลิเบียเมื่ออดีตผู้นำ Moammar Gadhafi หลบหนีไปกบดานในเขตพื้นที่ของชนเผ่าตนก่อนที่จะถูกล้มล้างอำนาจและสังหารในเวลาต่อมา

ทางด้านศาสตราจารย์ Imad Salamay แห่ง American University ในกรุง Beirut เห็นด้วยว่าเหตุการณ์ระเบิดเมื่อวันพุธถือเป็นจุดพลิกผันสำคัญของสถานการณ์ในซีเรีย เพราะนอกจากได้สร้างความเสียหายใหญ่หลวงต่อเครือข่ายความมั่นคงของรัฐบาลซีเรียแล้ว ยังทำให้กลุ่มกบฎเกิดความฮึกเหิมยิ่งขึ้น พร้อมชี้ว่าดูเหมือนขณะนี้รัฐบาลซีเรียได้สูญเสียฐานบัญชาการไปแล้ว และอาจไม่มีกำลังหรือยุทธวิธีเพียงพอในการสู้รบกับกลุ่มกบฎอีกต่อไป

ศาสตราจารย์ Imad Salamay ระบุด้วยว่าวันศุกร์นี้เป็นวันเริ่มเดือนรอมฎอน-เดือนศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในซีเรีย สืบเนื่องจากความแตกแยกของฝ่ายรักษาความมั่นคงของรัฐบาลซีเรีย

ด้านศาสตราจารย์ Hillal Khashan ให้ทัศนะว่าสถานการณ์ในซีเรียหลังระบอบการปกครอง ปธน. Bashar al-Assad น่าจะมีลักษณะคล้ายกับที่เกิดขึ้นในอิรักหลังยุค Saddam Hussein คือชนกลุ่มน้อย Alawite ในซีเรียซึ่งเป็นกลุ่มที่ปกครองซีเรียในขณะนี้รวมทั้งกลุ่มอื่นๆ อาจแยกตัวเป็นเขตปกครองอิสระ เหมือนกับที่ชนกลุ่มน้อยชาวเคริ์ดในอิรักแยกตัวเป็นอิสระหลังยุคผู้นำ Saddam Hussein
XS
SM
MD
LG