ลิ้งค์เชื่อมต่อ

เกาหลีใต้เตรียมพร้อมตอบโต้หากเกาหลีเหนือโจมตีระหว่างการฝึกรบ


กองทัพเกาหลีใต้ประกาศว่า พร้อมที่จะตอบโต้หากเกาหลีเหนือโจมตีระหว่างการซ้อมรบครั้งล่าสุดของเกาหลีใต้ การซ้อมรบที่ว่านี้คือส่วนหนึ่งในการตอบสนองต่อเหตุการณ์จมเรือรบเมื่อเดือนมีนาคม ซึ่งทางเกาหลีใต้เชื่อว่าเป็นการกระทำของเกาหลีเหนือ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ประกาศว่า การฝึกรบซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันพฤหัสบดี จะมีทั้งเรือดำน้ำ เรือพิฆาต เรือรบต่างๆเกือบ 30 ลำ ตลอดจนเครื่องบินรบ และกำลังทหารจากทุกเหล่าทัพรวม 4,500 นายเข้าร่วมประจำการ และแม้การฝึกรบครั้งนี้จะมีขึ้นในเขตน่านน้ำทางใต้สุด ซึ่งห่างจากพรมแดนทางทะเลติดกับเกาหลีเหนือ แต่ทหารประจำเกาะหลายเกาะในทะเลเหลืองใกล้กับพรมแดนเกาหลีเหนือก็จะทำการฝึกรบในบริเวณนั้นเช่นกัน

พลเรือตรีคิม เคือง ซิก แห่งกองทัพเรือเกาหลีใต้ กล่าวว่า หากเกาหลีเหนือกระทำการคุกคามใดๆในช่วงเวลานี้ เกาหลีใต้จะตอบโต้อย่างทันทีทันใด พลเรือตรีคิม ระบุว่าทางกองทัพจะจับตาดูเกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิด พร้อมเสริมว่ากองทัพเกาหลีใต้จะไม่อดทนต่อการยั่วยุคุกคามของเกาหลีเหนือเด็ดขาด และได้มีการเตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ระหว่างการฝึกรบ

รายงานข่าวในกรุงโซลระบุว่า ทางด้านเกาหลีเหนือได้โต้ตอบการฝึกรบของเกาหลีใต้ ด้วยการเคลื่อนย้ายจรวดขีปนาวุธมาประจำการบริเวณชายแดน เพื่อคุกคามเครื่องบินรบของเกาหลีใต้เช่นกัน

การฝึกรบเป็นเวลา 5 วันครั้งนี้ คือครั้งที่ 2 นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เรือรบของเกาหลีใต้ระเบิดและจมลงในทะเลเหลืองเมื่อเดือนมีนาคม ส่งผลให้มีลูกเรือเสียชีวิต 46 คน โดยผู้ตรวจสอบระหว่างประเทศระบุว่า เกิดจากการโจมตีด้วยจรวดขีปนาวุธจากเรือดำน้ำของเกาหลีเหนือ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กองทัพสหรัฐได้ร่วมฝึกรบกับเกาหลีใต้ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในเอเชียในรอบหลายปีบริเวณทะเลญี่ปุ่น จากที่ตอนแรกทางเกาหลีใต้ต้องการให้ฝึกรบในเขตทะเลเหลือง แต่จีนแย้งว่าใกล้กับเขตน่านน้ำของจีนมากเกินไป และในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ กองทัพสหรัฐและเกาหลีใต้จะร่วมฝึกรบประจำปีอีกครั้งเป็นเวลา 10 วัน ภายใต้ชื่อ Ulchi Freedom Guardian ซึ่งทางกองทัพสหรัฐระบุว่า การฝึกรบนี้มีเป้าหมายเพื่อเตรียมความพร้อมสูงสุดสำหรับประเทศพันธมิตรเพื่อรับมือการคุกคามใดๆก็ตาม

ปีนี้นับเป็นปีที่ 60 ตั้งแต่สงครามคาบสมุทรเกาหลีเริ่มต้นขึ้น และสิ้นสุดลงเมื่อ 57 ปีก่อน แต่จนถึงขณะนี้ทั้งรัฐบาลกรุงเปียงยางและกรุงโซลยังมิได้ลงนามในข้อตกลงสันติภาพแต่อย่างใด ซึ่งหมายความว่าในทางทฤษฎี สถานการณ์ระหว่าง 2 เกาหลีนี้ยังคงอยู่ในภาวะสงคราม

XS
SM
MD
LG