กองเรือที่คาดว่าจะเป็นกลุ่มโจรสลัดโซมาเลีย บุกยึดเรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ที่ชื่อไอรีนเอสแอล (Irean SL) ที่บริเวณอ่าวโอมาน กลางมหาสมุทรอินเดีย เมื่อเช้าวันพุธที่ผ่านมา (9 ก.พ.) ขณะกำลังบรรทุกน้ำมันกว่า 2 ล้านบาร์เรลจากคูเวต มุ่งหน้าสู่สหรัฐฯ
นายบิลล์ บอกส์ (Bill Box) ผู้จัดการฝ่ายการสื่อสารของ อินเตอร์แทงค์โค Intertanko สมาคมที่มีบริษัทสมาชิกเป็นเจ้าของเรือบรรทุกน้ำมันจำนวน 3 ใน 4 ของโลก และหนึ่งในนั้นคือเรือไอรีน เอสแอล บอกกับ วีโอเอว่า น้ำมันที่เรือโจรสลัดยึดไปได้มีมูลค่าประมาณ 2 ร้อยล้านเหรียญสหรัฐ และเป็นปริมาณที่เทียบเท่ากับการใช้น้ำมันถึงร้อยละ 20 ต่อวันในสหรัฐ แต่สิ่งที่ต้องตระหนักมากที่สุดในการปล้นครั้งนี้คือบริเวณที่เรือโจรสลัดออกปฏิบัติการ
ผู้จัดการฝ่ายการสื่อสาร บอกว่า พื้นที่ที่เรือโจรสลัดบุกปล้นเรือไอรีนเอสเอลนั้นห่างไกลจากอ่าวโซมาเลีย มากกว่า 1 พันไมล์ ซึ่งเท่ากับเป็นการขยายพื้นที่ปฏิบัติการของกลุ่มโจรสลัดในมหาสมทุรอินเดียออกไปจนถึงแนวใกล้ชายฝั่งของอินเดียขณะเดียวกันเส้นทางเดินเรือที่ใช้ถือเป็นเส้นทางหลักในการขนส่งสินค้าเชื่อมต่อกับอ่าวเปอร์เซียและส่วนอื่นๆของโลกอีกด้วย
ด้านนาวาอากาศโท แพดดี้ โอ เคเนดี้ (Pad O’Kennedy) โฆษกของกองกำลังปราบปรามโจรสลัดของสหภาพยุโรป กล่าวว่า การที่กลุ่มโจรสลัดสามารถเดินทางได้ไกลขึ้นและโจมตีเรือเรือเดินทะเลบ่อยครั้งขึ้นเพราะมีการใช้เรือที่เรียกว่า เรือธง หรือ เรือแม่ ซึ่งเป็นเรือขนาดใหญ่เป็นฐานปฏิบัติการเคลื่อนที่กลางทะเลลึกเพื่อสนับสนุนเรือปฏิบัติการลำเล็กที่ส่งออกไปโจมตี
โฆษกของกองกำลังปราบปรามโจรสลัดของสหภาพยุโรป กล่าวว่า ในอดีตกองเรือโจรสลัดจะไม่สามารถออกทะเลได้ในฤดูมรสุมเพราะมีคลื่นยักษ์ แต่การใช้เรือแม่เป็นฐานกลางทะเลทำให้ไม่มีผลกระทบในเรื่องสภาพอากาศมากนัก
นาวาอากาศโท แพดดี้ บอกว่า องค์กรปราบปรามโจรสลัดพยายามจะสอนวิธีป้องกันตัวเองจากการจู่โจมของเรือโจรสลัดให้กับเรือเดินสมทุรของบริษัทต่างๆ แต่การฝึกฝนและการลาดตระเวนทางทะเลกก็ไม่ได้ทำให้เรือโจรสลัดลดน้อยลง
เขาบอกด้วยว่า เป็นเรื่องยากที่จะสามารถยับยั้งการปล้นในทะเลเพราะโจรสลัดมีวิธีการดำเนินธุรกิจที่ได้ผลอยู่ตลอดโดยเฉพาะในปีที่ผ่านมากลุ่มโจรสลัดมีรายได้หลายร้อยล้านเหรียญ จากการเรียกค่าไถ่ และขณะนี้ก็ยังมีเรืออย่างน้อย 30 ลำและตัวประกันประมาณ 700 คนที่ยังถูกจับ
โฆษกของกองกำลังปราบปรามโจรสลัดของสหภาพยุโรป แสดงความดิดเห็นว่าบางทีการแก้ปัญหาโจรสลัดโซมาเลียอาจไม่ใช่อยู่ที่ปฏิบัติการในทะเล แต่อาจจะขึ้นบกไปที่การสร้างความเข้มแข็งสนับสนุนให้รัฐบาลประเทศโซมาเลียได้เข้ามามีบทบาทในการแก้ปัญหาให้มากขึ้น