นักวิจัยพบโหม่งบอลบ่อยๆอาจทำให้สมองบาดเจ็บเรื้อรังได้

นักวิจัยจากสถาบันการแพทย์ Albert Einstein และศูนย์การแพทย์ Montefiore ในนครนิวยอร์ค ทดสอบผลกระทบของการโหม่งลูกฟุตบอลกับอาการกระทบกระเทือนหรือบาดเจ็บที่สมอง โดยใช้เครื่อง MRI แบบใหม่สแกนภาพสมองของกลุ่มตัวอย่างนักฟุตบอลสมัครเล่น 38 คนในเวลาต่างๆกันเป็นเวลา 1 ปี จากนั้นนำภาพของนักฟุตบอลแต่ละคนมาเปรียบเทียบกัน พบว่านักฟุตบอลที่ใช้ศรีษะโหม่งบอลบ่อยที่สุดคือมากกว่า 1,000 – 1,500 ครั้งต่อปีมีอาการบาดเจ็บทางสมองมากที่สุดในลักษณะเดียวกับผู้ที่ถูกกระแทกสมองอย่างแรง

คุณ Michael Lipton หัวหน้านักวิจัยชุดนี้ระบุว่าตัวเลข 1,000 – 1,500 ครั้งต่อปีอาจฟังดูมากสำหรับผู้ที่มิได้เล่นกีฬาชนิดนี้ แต่จริงๆแล้วคนที่เล่นฟุตบอลเป็นประจำแทบทุกวันอย่างนักกีฬาอาชีพ เฉลี่ยแล้วเท่ากับการโหม่งบอลวันละ 4-5 ครั้งเท่านั้น คุณ Lipton ยังเสริมด้วยว่าการโหม่งลูกฟุตบอลตามปกติแล้วมิได้สร้างความเสียหายต่อเส้นประสาทในสมองแต่อย่างใด แต่การโหม่งซ้ำๆเป็นประจำทุกวันจะทำให้เซลล์สมองส่วนที่ถูกกระทบกระเทือนบ่อยๆเสื่อมสภาพไป

นักวิจัยยังได้ระบุเจาะจงถึงสมอง 5 ส่วนซึ่งทำหน้าที่ควบคุมความจำความสนใจและการมองเห็น ซึ่งเป็นส่วนที่ได้รับผลกระทบจากการโหม่งลูกฟุตบอลเป็นประจำ โดยจากการทดสอบดังกล่าวเห็นได้ชัดว่ากลุ่มตัวอย่างนักฟุตบอลที่โหม่งลูกฟุตบอลมากที่สุดมีแนวโน้มทำข้อสอบด้านความจำ การเร็วของการคิดคำนวณและการประสานงานของมือกับสายตาได้ต่ำที่สุด

ฟุตบอลหรือซ้อคเกอร์นั้นเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก สมาพันธ์ฟุตบอลโลกหรือฟีฟ่าคาดว่ามีประชากรโลกมากกว่า 250 ล้านคนเล่นกีฬาชนิดนี้เป็นประจำสม่ำเสมอ เฉพาะในสหรัฐนั้นมีคนเล่นฟุตบอลราว 18 ล้านคนส่วนใหญ่เป็นเยาวชนอายุระหว่าง 7-18 ปี อย่างไรก็ตาม สถาบันกุมารแพทย์อเมริกันหรือ AAP ชี้ว่ายังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะห้ามไม่ให้เด็กอเมริกันอย่าใช้ศรีษะโหม่งลูกฟุตบอลโดยเด็ดขาด แต่คำแนะนำที่พอจะให้ได้ก็คือใช้ศรีษะให้น้อยที่สุด