นักวิจัยกล่าวว่าการโหม่งลูกบอลซ้ำๆอาจจะส่งผลให้เกิดอาการบาดเจ็บในสมองและเกิดปัญหาด้านความทรงจำคล้ายกับที่เกิดจากอาการเลือดออกในสมอง
ฟุตบอลเป็นกีฬายอดนิยมที่มีทั้งผู้เล่นแบบจริงจังมืออาชีพเเละแบบสมัครเล่นเป็นกีฬาอดิเรก เชื่อกันว่ามีคนเล่นฟุตบอลกันราว 2,500 ล้านคนทั่วโลก อย่างไรก็ตาม เกิดความกังวลว่าการใช้ศรีษะโหม่งลูกบอลที่พุ่งด้วยความเร็วสูงจนถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงซ้ำๆกันหลายครั้งอาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บภายในสมองได้
ทีมนักวิจัยที่ภาควิชาการแพทย์ Albert Einstein ที่มหาวิทยาลัย Yeshiva ได้ทำการศึกษาสมองของนักกีฬาฟุตบอลสมัครเล่น 32 คนที่เลือกมาจากเขตต่างๆทั่วมหานครนิวยอร์ค ทุกคนเล่นฟุตบอลเป็นกีฬาอดิเรกมานาน 22 ปีโดยเฉลี่ย ทุกคนจะฝึกซ้อมสัปดาห์ละสองครั้งและลงเล่นในเกมการเเข่งขันสัปดาห์ละหน
คุณไมเคิล ลิปตั้น ผู้อำนวยการของศูนย์วิจัยการแสกนสมองด้วยระบบ MRI ที่ภาควิชาการแพทย์แห่งนี้กล่าวว่านักวิจัยศึกษาว่าผู้เล่นฟุตบอลเเต่ละคนโหม่งลูกบอลกี่ครั้งตลอดช่วงหนึ่งปี ผู้เข้าร่วมการวิจัยยังได้เข้ารับการทดสอบหลายอย่างเพื่อวัดระดับการทำงานของสมองและความจำและนักวิจัยใช้อุปกรณ์ MRI ทันสมัยในการสแกนสมองของผู้เข้าร่วมการศึกษาเพื่อดูว่าจำนวนครั้งของการโหม่งลูกบอลมีความเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างของสมองกับความทรงจำอย่างไร
ทีมนักวิจัยพบว่าผู้เล่นที่โหม่งลูกบอลประมาณ 1,500 ครั้งต่อปีหรือน้อยกว่านั้น มีความเสียหายเล็กน้อยในส่วนเนื้อเยื่อไขมันที่คลุมรอบสมองซึ่งเป็นส่วนที่มีเส้นประสาทที่เรียกว่าเเอ็กซอนส์
คุณไมเคิล ลิปตันหัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่าหากผู้เล่นโหม่งลูกบอลบ่อยครั้งมากกว่านั้น ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อสมองจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งต่อเนื้อเยื่อสมองและต่อความสามารถในการทำบททดสอบทางจิตวิทยา โดยเฉพาะบททดสอบความทรงจำ
คุณลิปตั้นกล่าวว่าผู้เล่นฟุตบอลที่โหม่งลูกบอล 1,550 ครั้งต่อปีและมากกว่านั้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในสมองและเกิดความบกพร่องด้านความทรงจำที่คล้ายกับคนที่มีอาการเลือดออกในสมอง ในขณะที่ผู้เล่นฟุตบอลที่โหม่งลูกมากกว่า 1800 ครั้งต่อปีทำคะแนนข้อทดสอบความทรงจำได้ต่ำที่สุด
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าอาการบาดเจ็บในสมองเกิดขึ้นจากการฝึกซ้อมเนื่องจากผู้เล่นอาจจะต้องฝึกโหม่งลูกบอลราว 30 ครั้งหรือมากกว่านั้น ในขณะที่ ระหว่างการเเข่งขันจริงๆ ผู้เล่นแต่ละคนอาจจะโหม่งลูกบอลราว 6 ถึง 12 ครั้งเท่านั้น
คุณลิปตั้น หัวหน้าการวิจัยนี้กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าหมวกกันน็อกที่ใช้ในการเเข่งขัน
อเมริกันฟุตบอลพิสูจน์ว่ามีประสิทธิภาพในป้องกันการแตกร้าวของกระโหลกศรีษะและอาการเลือดออกในสมอง แต่เขากล่าวว่าหมวกกันน็อคดังกล่าวไม่สามารถช่วยป้องกันและลดอาการบาดเจ็บในสมองที่เกิดจากการใช้ศรีษะโหม่งลูกฟุตบอล
คุณลิปตั้นกล่าวว่าลักษณะอาการบาดเจ็บในสมองที่ทีมงานศึกษานี้เกิดจากการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วของตัวสมองทั้งที่ไปข้างหน้า หยุดชะงักอย่างรวดเร็วและหมุนไปรอบๆ เป็นเหมือนการเขย่าตัวสมองไปมาภายในกระโหลกศรีษะอย่างรวดเร็ว
คุณลิปตั้น หัวหน้าทีมนักวิจัยกล่าวปิดท้ายรายงานจากผู้สื่อข่าววีโอเอว่าในขั้นต่อไป ทีมงานจะทำการศึกษาผลกระทบของการโหม่งลูกฟุตบอลในนักเล่นฟุตบอลแต่ละกลุ่มอายุที่แตกต่างกันไปและจากหลายๆประเทศ
ฟุตบอลเป็นกีฬายอดนิยมที่มีทั้งผู้เล่นแบบจริงจังมืออาชีพเเละแบบสมัครเล่นเป็นกีฬาอดิเรก เชื่อกันว่ามีคนเล่นฟุตบอลกันราว 2,500 ล้านคนทั่วโลก อย่างไรก็ตาม เกิดความกังวลว่าการใช้ศรีษะโหม่งลูกบอลที่พุ่งด้วยความเร็วสูงจนถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงซ้ำๆกันหลายครั้งอาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บภายในสมองได้
ทีมนักวิจัยที่ภาควิชาการแพทย์ Albert Einstein ที่มหาวิทยาลัย Yeshiva ได้ทำการศึกษาสมองของนักกีฬาฟุตบอลสมัครเล่น 32 คนที่เลือกมาจากเขตต่างๆทั่วมหานครนิวยอร์ค ทุกคนเล่นฟุตบอลเป็นกีฬาอดิเรกมานาน 22 ปีโดยเฉลี่ย ทุกคนจะฝึกซ้อมสัปดาห์ละสองครั้งและลงเล่นในเกมการเเข่งขันสัปดาห์ละหน
คุณไมเคิล ลิปตั้น ผู้อำนวยการของศูนย์วิจัยการแสกนสมองด้วยระบบ MRI ที่ภาควิชาการแพทย์แห่งนี้กล่าวว่านักวิจัยศึกษาว่าผู้เล่นฟุตบอลเเต่ละคนโหม่งลูกบอลกี่ครั้งตลอดช่วงหนึ่งปี ผู้เข้าร่วมการวิจัยยังได้เข้ารับการทดสอบหลายอย่างเพื่อวัดระดับการทำงานของสมองและความจำและนักวิจัยใช้อุปกรณ์ MRI ทันสมัยในการสแกนสมองของผู้เข้าร่วมการศึกษาเพื่อดูว่าจำนวนครั้งของการโหม่งลูกบอลมีความเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างของสมองกับความทรงจำอย่างไร
ทีมนักวิจัยพบว่าผู้เล่นที่โหม่งลูกบอลประมาณ 1,500 ครั้งต่อปีหรือน้อยกว่านั้น มีความเสียหายเล็กน้อยในส่วนเนื้อเยื่อไขมันที่คลุมรอบสมองซึ่งเป็นส่วนที่มีเส้นประสาทที่เรียกว่าเเอ็กซอนส์
คุณไมเคิล ลิปตันหัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่าหากผู้เล่นโหม่งลูกบอลบ่อยครั้งมากกว่านั้น ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อสมองจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งต่อเนื้อเยื่อสมองและต่อความสามารถในการทำบททดสอบทางจิตวิทยา โดยเฉพาะบททดสอบความทรงจำ
คุณลิปตั้นกล่าวว่าผู้เล่นฟุตบอลที่โหม่งลูกบอล 1,550 ครั้งต่อปีและมากกว่านั้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในสมองและเกิดความบกพร่องด้านความทรงจำที่คล้ายกับคนที่มีอาการเลือดออกในสมอง ในขณะที่ผู้เล่นฟุตบอลที่โหม่งลูกมากกว่า 1800 ครั้งต่อปีทำคะแนนข้อทดสอบความทรงจำได้ต่ำที่สุด
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าอาการบาดเจ็บในสมองเกิดขึ้นจากการฝึกซ้อมเนื่องจากผู้เล่นอาจจะต้องฝึกโหม่งลูกบอลราว 30 ครั้งหรือมากกว่านั้น ในขณะที่ ระหว่างการเเข่งขันจริงๆ ผู้เล่นแต่ละคนอาจจะโหม่งลูกบอลราว 6 ถึง 12 ครั้งเท่านั้น
คุณลิปตั้น หัวหน้าการวิจัยนี้กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าหมวกกันน็อกที่ใช้ในการเเข่งขัน
อเมริกันฟุตบอลพิสูจน์ว่ามีประสิทธิภาพในป้องกันการแตกร้าวของกระโหลกศรีษะและอาการเลือดออกในสมอง แต่เขากล่าวว่าหมวกกันน็อคดังกล่าวไม่สามารถช่วยป้องกันและลดอาการบาดเจ็บในสมองที่เกิดจากการใช้ศรีษะโหม่งลูกฟุตบอล
คุณลิปตั้นกล่าวว่าลักษณะอาการบาดเจ็บในสมองที่ทีมงานศึกษานี้เกิดจากการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วของตัวสมองทั้งที่ไปข้างหน้า หยุดชะงักอย่างรวดเร็วและหมุนไปรอบๆ เป็นเหมือนการเขย่าตัวสมองไปมาภายในกระโหลกศรีษะอย่างรวดเร็ว
คุณลิปตั้น หัวหน้าทีมนักวิจัยกล่าวปิดท้ายรายงานจากผู้สื่อข่าววีโอเอว่าในขั้นต่อไป ทีมงานจะทำการศึกษาผลกระทบของการโหม่งลูกฟุตบอลในนักเล่นฟุตบอลแต่ละกลุ่มอายุที่แตกต่างกันไปและจากหลายๆประเทศ
