ผู้ที่มีปัญหาสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง ที่ต้องตรวจสอบความผิดปกติของสายตาตัวเองอยู่เป็นประจำ กำลังจะมีข่าวดีจากการคิดค้นเครื่องตรวจวัดสายตาเคลื่อนที่ ผ่านApplication บนสมาร์ทโฟน หรือโทรศัพม์มือถือ ผลงานของนักวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งแมสซาชูเซทส์หรือ MIT ที่ชนะเลิศการประกวดผลงานจากโครงการพัฒนานวัตกรรมอุปกรณ์เคลื่อนที่ ของมูลนิธิโวดาโฟน อเมริกา เมื่อเดือนที่ผ่านมา
อุปกรณ์ตรวจสายตา ที่นักวิจัยเรียกว่า Netra หรือ Near Eye Tool for Refractive Assessment นอกจากจะมีความหมายว่า “ดวงตา” ในภาษาสันสฤต แล้ว ยังถือเป็นความหวังใหม่ของผู้ที่มีปัญหาทางสายตาที่มีประมาณ 280 ล้านคนทั่วโลกซึ่งองค์การอนามัยโลกระบุว่าส่วนใหญ่อาศัยในประเทศกำลังพัฒนาและ ประมาณร้อยละ 80 สามารถป้องกันหรือเยียวยาการบกพร่องทางสายตาได้หากสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีการตรวจวัดสายตา
หลักการใช้งานของ Netra เหมือนกับ Application ทั่วไปที่ต้องดาวน์โหลดลงบนโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน แต่ต้องติดตั้งช่องมองพลาสติคไปที่หน้าจอ ก่อนจะเพ่งสายตาทั้งสองมองลงไปแล้วคลิกปุ่มบนโทรศัพท์เพื่อเลื่อนเส้นตรงสองเส้นที่มองเห็นให้เป็นเส้นเดียว ซึ่งเราสามารถทราบได้ว่าสายตาของเรามีความผิดปกติแค่ไหนจากจำนวนการคลิกเพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจน และที่สำคัญผลของการวัดก็ไม่แตกต่างจากการตรวจวัดสายตาทั่วไป และสามารถส่งผลการตรวจให้จักษุแพทย์สั่งตัดแว่นตาที่เหมาะกับเราได้ โดยมีต้นทุนการตรวจแค่ประมาณ 2 ดอลล่าห์สหรัฐและไม่ต้องเดินทางไปคลินิคหรือร้านตรวจสายตา แต่ก็ต้องอดใจรออีกนิดเพราะ App ที่ว่านี้ยังไม่เปิดใช้อย่างเป็นทางการเพราะยังอยู่ในระหว่างการทดสอบและพัฒนา
คุณ June Sugiyama ผู้อำนวยการ มูลนิธิโวดาโฟน อเมริกา บอกว่า แม้ผลงานการคิดค้น Netra ของนักวิจัยจาก MIT จะได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันคิดค้นโครงการพัฒนานวัตกรรมอุปกรณ์แบบไร้สาย พร้อมเงินรางวัลกว่า 3 แสนดอลล่าห์เพื่อนำไปพัฒนาการวิจัยต่อเนื่องภายใน 3 ปี แต่ผลงานวิจัยอื่นๆอีกเกือบ 100 โครงงานที่ส่งเข้ามาก็เป็นการคิดค้นที่ดีและสามารถเป็นประโยชน์และช่วยแก้ปัญหาต่างๆได้เช่นกัน
ผู้อำนวยการ มูลนิธิโวดาโฟน อเมริกา บอกว่า กระบวนการคิดสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆจะเป็นประโยชน์กับผู้คนนับล้านๆ ที่จะสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีในอุปกรณ์เคลื่อนที่เหล่านี้ โดยที่อุปกรณ์ที่ใช้กระแสไฟฟ้าตามปกติ หรืออุปกรณ์อื่นๆ อาจจะยังเข้าไม่ถึง
การแข่งขันด้านนวัตกรรมในครั้งนี้มีผลงานที่น่าสนใจที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศที่เรียกว่า Smart Diaphragm ซึ่งเป็นอุปกรณ์เคลื่อนที่ใช้ตรวจภาวะทารกในครรภ์ของผู้หญิงที่อยู่ในความเสี่ยงว่าอาจจะคลอดก่อนกำหนด โดยจะมีสัญญานเตือนให้ทราบล่วงหน้าเพื่อให้หมอเข้ามาดูแลได้ทัน
ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับสองคืออุปกรณ์เคลื่อนที่พลังงานแสงอาทิตย์ที่ออกแบบเพื่อผู้ป่วยที่รับการบำบัดรักษาวัณโรคในประเทศกำลังพัฒนา ที่เรียกว่า CoolComply ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้วัดอุณหภูมิของการเก็บรักษายารวมทั้งบันทึกการใช้ยาของผู้ป่วย
คุณสุกิยาม่า บอกว่า ข้อมูลที่ได้จะส่งไปถึงแพทย์ในพื้นที่ที่ให้การดูแลผู้ป่วยวัณโรคได้โดยตรง
เพราะการรักษาผู้ป่วยวัณโรคนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเก็บรักษายาไว้ในอุณภูมิที่แน่นอน และอุปกรณ์นี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากในประเทศกำลังพัฒนาซึ่งบางพื้นที่ยังไม่มีตู้เย็นเพื่อเก็บรักษายา
