Pat Wells เริ่มไปเยี่ยมผู้สูงอายุที่พำนักในบ้านพักหลังเกษียณอายุของ Armed Forces Retirement Home เมื่อสิบปีที่แล้ว
เธอบอกว่าหลังเหตุการณ์ก่อการร้ายสิบเอ็ดกันยายน เธออยากทำให้สิ่งดีๆแก่สังคม
ตอนแรก คุณเวลส์ไปเยี่ยมสถานที่พักคนชราเองคนเดียว แต่หลังจากได้ยินว่า สัตว์เลี้ยงมีผลดีต่อการบำบัดฟื้นฟูสุขภาพจิตของคน เธอจึงยืมสุนัขของเพื่อนแล้วพาไปที่บ้านพักคนชราด้วย จนกระทั่งซื้อสุนัขมาเลี้ยงเองชื่อ Rikka คุณเวลส์ ค้นพบว่าสุนัขมีผลทา่งจิตใจของผู้สูงอายุที่บ้านพักหลังเ้กษียน
เธอเล่าว่าได้พบกับหญิงสูงอายุคนหนึ่งที่ไม่ยอมออกมาจากห้องของตนเพราะป่วยด้วยอาการเส้นเลือดในสมองตีบตัน แต่เมื่อเธอพาสุนัขไปเยี่ยม สตรีผู้นี้ลุกขึ้นมาทักทายแล้วบอกว่ารู้สึกมีความสุขที่สุดในรอบหลายสัปดาห์ คุณเวลล์ยังพาสุนัขไปเยี่ยมผู้ป่วยที่จะต้องรับการผ่าตัดและรู้สึกกลัวการผ่าตัด เธอบอกว่าสุนัขช่วยให้ผู้ป่วยยิ้มแย้มแจ่มใส และช่วยเจ้าหน้าที่แพทย์และพยาบาลที่ทำงานในบ้านพักคนชราหายเครียดด้วย
บรรดาอาสาสมัครจะพาสุนัขไปเยี่ยมบ้านพักคนชราแห่งนี้เดือนละสามครั้ง ผู้อาศัยที่บ้านพักหลังเกษียณคนนี้บอกว่าสุนัขทำให้ตัวเธอรู้สึกแจ่มใสและผ่อนคลาย
ส่วนคนนี้บอกว่าเขารักสุนัขทุกตัว สุนัขเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด
คุณสตีฟ บรีฟส์ นักสันทนาการบำบัดที่สถานดูแลคนชรามั่นใจว่าสุนัขมีส่วนช่วยบำบัดผู้สูงอายุเหล่านี้
คุณบรีฟส์ บอกกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่า สุนัขดีกับการบำบัดคนชราที่ป่วยด้วยโรคเก้าท์ที่ขยับมือลำบากเพราะมีโอกาสได้ลูบและกอดสุนัข ตลอดจนได้พูดคุยแบ่งปันความสุขจากการได้อยู่กับสัตว์เลี้ยงกับเจ้าของสุนัข ทำให้คนชราที่ศูนย์ไม่หงอยเหงาเพราะได้ออกมาจากห้องของตัวเองเพื่อพบปะคนอื่นๆ พวกเขา ได้ใช้เวลาอย่างมีความสุขไปได้อีกหนึ่งวัน เขาบอกว่า การได้สัมผัสสัตว์เลี้ยงช่วยลดความเครียดในคนสูงอายุด้วยจึงเป็นผลดีกับผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง
คุณเทรซี่ บีทซ์ เป็นอาสาสมัครอีกคนหนึ่งที่พาสุนัขไปเยี่ยมคนชราที่บ้านพักแห่งนี้ เธอบอกว่าไม่เฉพาะเเค่คนชราเท่านั้นที่ได้ประโยชน์ สุนัขก็ได้รับประโยชน์ด้วย
เธอบอกว่าสุนัขของเธอชอบให้คนลูบ ชอบอยู่ใกล้ชิดกับคน การได้สัมผัสกับคนทำให้สุนัขมีความสงบสุข ตัวเธอเองภูมิใจที่เห็นสุนัขของเธอมีส่วนทำให้คนอื่นมีความสุขใจ
โครงการบำบัดผู้ป่วยด้วยสัตว์เลี้ยงจัดทำโดยหน่วยงานเอกชนในกรุงวอชิงตันที่เรีกตัวเองว่า People Animals Love มีกลุ่มอาสาสมัครที่พาสัตว์เลี้ยงไปช่วยบำบัดคนชราและผู้ป่วยมากกว่าหนึ่งร้อยกลุ่มทั่วอเมริกา