เมื่อปีที่แล้ว ประธานาธิบดี บารัค โอบามาเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีอินเดีย มานโมฮัน ซิงห์ ที่ทำเนียบขาว ซึ่งเป็นงานเลี้ยงอาหารค่ำรับรองแขกบ้านแขกเมืองครั้งแรกนับตั้งแต่เข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกัน ส่วนนายกรัฐมนตรีอินเดียก็จะเลี้ยงอาหารค่ำตอบแทนเป็นเกียรติแก่ท่านประธานาธิบดีเช่นกันระหว่างที่ท่านประธานาธิบดีเยือนกรุง นิว เดลี ผลของการสำรวจความคิดเห็นของชาวอินเดียแสดงว่า ประธานาธิบดี โอบามา เป็นที่นิยมมากในอินเดีย อันเป็นประเทศประชาธิปไตยใหญ่ที่สุดในโลก
นอกจากนี้ อินเดียยังเป็นประเทศที่ทรงความสำคัญทางเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์มากยิ่งขึ้น ชนชั้นกลางซึ่งกำลังมีจำนวนมากยิ่งขึ้นส่วนใหญ่ไม่โดนผลกระทบที่เกิดจากภาวะเศรษฐกิจโลกซบเซา
คุณรอน ซอมเมอร์ส แห่งสภาธุรกิจสหรัฐ-อินเดีย กล่าวว่า ขณะนี้มีความจำเป็นจะต้องสร้างงานให้คนทำในทั้งสองประเทศ ในสังคมของสองประเทศ และเรื่องที่จะเน้นที่อินเดียก็คือเรื่องการถ้อยทีถ้อยอาศัยกันและกันที่อินเดียและสหรัฐกำลังพัฒนาในแง่ของการที่อินเดียกำลังเป็นตลาดที่เจริญเร็วที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
การกระชับเศรษฐสัมพันธ์กับอินเดียมีขึ้นในช่วงที่อินเดียกำลังมองหาหุ้นส่วนใหม่ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย “มุ่งมองไปทางตะวันออก” ของอินเดีย นายกรัฐมนตรีอินเดียไปเยือนญี่ปุ่น เวียดนามและมาเลเซียเมื่อเร็วๆนี้
ผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียใต้ วอลเตอร์ แอนเดอร์เสน แห่งคณะวิเทศคดีศึกษาของมหาวิทยาลัย จอห์นส ฮอพกิ้นส มีทัศนะว่า ฝ่ายญี่ปุ่นมีวิสัยว่าอาจจะไปลงทุนโดยตรงอย่างเป็นกอบเป็นกำในอินเดีย และยังมีเรื่องการเป็นห่วงกังวลในด้านยุทธศาสตร์ในภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และญี่ปุ่นเกี่ยวกับการที่จีนมีบทบาทในทางที่เบ่งอำนาจมากยิ่งขึ้นและเห็นได้ชัดว่าภูมิภาคดังกล่าวและญี่ปุ่นต้องการมีความสัมพันธ์กับมหาอำนาจรายต่อไปในเอเชียซึ่งก็คืออินเดีย
ประธานาธิบดีโอบามาจะเยือนนครมุมบาย ศูนย์พาณิชยการที่กำลังรุ่งเรืองของอินเดียเป็นแห่งแรก ที่นครมุมบาย ท่านประธานาธิบดีจะพบหารือกับผู้บริหารธุรกิจฝ่ายอินเดียและอเมริกัน เทิดเกียรติผู้วายชนม์เนื่องจากการโจมตีของผู้ก่อการร้ายเมื่อปีพุทธศักราช 2551และจะเปิดให้มีการเสวนากับสาธารณชนที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในนครแห่งนั้น ท่านประธานาธิบดีจะพักที่โรงแรม ทัช ซึ่งเป็นเป้าหมายหนึ่งที่ผู้ก่อการร้ายเข้าโจมตี
ที่กรุง นิว เดลี ท่านประธานาธิบดีมีแผนจะกล่าวปราศรัยต่อรัฐสภา คาดว่าท่านประธานาธิบดีจะพูดถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการนำข้อตกลงเกี่ยวกับเรื่องนิวเคลียร์สำหรับพลเรือนขั้นสุดท้ายไปปฏิบัติให้เป็นผล
เจ้าหน้าที่ของทำเนียบขาวกล่าวว่า ในการเยือนอินโดนีเซีย ท่านประธานาธิบดีจะเน้นถึงความสำคัญของอินโดนีเซียในฐานะที่เป็นประเทศที่มีพลเมืองส่วนใหญ่เป็นมุสลิมใหญ่ที่สุดในโลกและการเป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตย ที่กรุงจาการ์ตา ประธานาธิบดีโอบามาจะไปเยือนสุเหร่าอิสติคลาล ซึ่งเป็นสุเหร่าใหญ่สุดในอินโดนีเซีย แต่จะไม่มีเวลาไปเยี่ยมโรงเรียนที่ท่านเคยเรียนตอนเป็นเด็กในสมัยที่พำนักอยู่ในอินโดนีเซียทั้งๆที่เรื่องนั้นทรงความสำคัญสำหรับตัวท่านเอง
ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ท่านประธานาธิบดีจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดของกลุ่มจี-20 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศทางเอเชีย ต่อจากนั้น ประธานาธิบดีโอบามาจะเดินทางไปยังนครโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่นเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดของAPEC
ระหว่างที่อยู่ในกรุงโซล ท่านประธานาธิบดีจะเจรจาหารือกับประธานาธิบดีจีน หู จิ่นเท้าเป็นครั้งที่เจ็ด จะไปเยี่ยมและกล่าวปราศรัยต่อทหารอเมริกันเนื่องในวาระครบรอบปีที่หกสิบแห่งการเกิดสงครามเกาหลี และจะเดินทางกลับมาถึงสหรัฐในวันที่ 14 เดือนนี้ คาดกันว่าการเลือกตั้งกลางสมัยจะทำให้เกิดความเปลี่ยนมากทีเดียวในกรุงวอชิงตัน
