ลิ้งค์เชื่อมต่อ

หนังสือพิมพ์ของทางการเกาหลีเหนือลงภาพถ่ายของนาย คิม จอง อัน ซึ่งคาดกันว่าจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำจากนาย คิม จอง อิลนั้นเป็นครั้งแรก


หนังสือพิมพ์ของทางการเกาหลีเหนือลงภาพถ่ายของนาย คิม จอง อัน ซึ่งคาดกันว่าจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำจากนาย คิม จอง อิลนั้นเป็นครั้งแรก
หนังสือพิมพ์ของทางการเกาหลีเหนือลงภาพถ่ายของนาย คิม จอง อัน ซึ่งคาดกันว่าจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำจากนาย คิม จอง อิลนั้นเป็นครั้งแรก

เกาหลีเหนือนำภาพถ่ายของนาย คิม จอง อัน ผู้ที่จะสืบทอดตำแหน่งผู้นำเกาหลีเหนือจากนาย คิม จอง อิล ผู้เป็นบิดานั้นออกเผยแพร่อย่างป็นทางการเป็นครั้งแรก การนำภาพถ่ายของนาย คิม จอง อัน ออก เผยแพร่นี้ทำหลังจากที่ประชุมของพรรคคนงานเห็นชอบการแต่งตั้งนักการเมืองหน้าใหม่ผู้นั้นให้ดำรงตำแหน่งที่สำคัญในพรรคและในกองทัพ ภาพถ่าย ซึ่งมีการจัดฉากกันไว้อย่างดีนี้ส่อให้เห็นถึงวิสัยที่อาจมีปัญหาซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลัง

เมื่อดูภาพถ่ายจะเห็นว่า นาย คิม จอง อัน ผู้นั่งอยู่ที่เก้าอี้แถวหน้าและมีผู้นำระดับอาวุโสของเกาหลีเหนืออีกสองร้อยคนนั่งอยู่ด้วยนั้นมีสีหน้าเคร่งเครียดปราศจากรอยยิ้ม เขานั่งที่เก้าอี้ตัวที่อยู่ถัดออกไปจากเก้าอี้ที่นาย คิม จอง อิล บิดาของเขานั่งสองตัว เขาสวมชุดสีดำคล้ำ ส่วนบิดาของเขาสวมชุดสีกากี ผู้นำคนอื่นๆถ้าไม่สวมชุดนักธุรกิจก็แต่งเครื่องแบบทหาร การที่หนังสือพิมพ์ของทางการเกาหลีเหนือลงภาพถ่ายดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า การประชุมของพรรคคนงาน ซึ่งนานๆจะมีขึ้นสักครั้งหนึ่งนั้นยุติลงแล้ว บรรดานักวิเคราะห์คาดหมายว่า นาย คิม จอง อัน จะได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้สืบตำแหน่งผู้นำเกาหลีเหนือต่อจากบิดาของเขา

แต่คุณ กอร์ดอน เฟล็ก ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีของมูลนิธิแมนส์ฟีลด์ ณ กรุงวอชิงตันกล่าวว่า สิ่งที่มองเห็นนั้นไม่ใช่เรื่องการสืบทอดอำนาจ แต่เป็นเครื่องบ่งชี้อย่างเปิดเผยเป็นครั้งแรกถึงการเริ่มต้นของกระบวนการที่มีวิสัยว่าจะเป็นการสืบทอดอำนาจ แต่นาย คิม จอง อิล ยังครองอำนาจอยู่ และเรื่องนี้เป็นการตัดสินโดยครอบครัวส่วนบุคคล หาใช่เป็นการตัดสินชี้ขาดของสถาบันการปกครองไม่

ระหว่างการประชุมของพรรคคนงานในสัปดาห์นี้ นาย คิม จอง อัน และคุณป้าของเขาได้ติดยศพลเอก ทั้งๆที่ทั้งสองคนมีประสพการณ์ด้านการทหารน้อยมาก นอกจากนี้ นาย คิม จอง อัน กับคุณลุงของเขายังร่วมกันเป็นประธานของคณะกรรมด้านการป้องกันที่ทรงความสำคัญคณะหนึ่งด้วย กองทัพบกซึ่งมีกำลังพลหนึ่งล้านกว่านายเป็นเสมือนเสาหลักของเกาหลีเหนือ และนาย คิม จอง อิล เพิ่มความสำคัญของกองทัพบกหลังจากเกิดทุพภิกขภัยร้ายแรงในช่วงพุทธทศวรรษที่2533

คุณ เอบ เดนมาร์กแห่งศูนย์ความมั่งคงใหม่แห่งอเมริกา ณ กรุงวอชิงตันวิจารณ์ว่า เมื่อนาย คิม จอง อิล สืบทอดอำนาจจากบิดาของเขา เขาพึ่งสถาบันหลายแห่งที่จัดการดูแลด้านการปกครองประเทศ แต่เขากำจัดสถาบันเหล่านั้นไปหลายแห่งเนื่องจากมีวิสัยว่าจะเป็นคู่แข่งในแง่ของอิทธิพลและอำนาจ เขากล่าวด้วยว่า การที่นาย คิม จอง อิล ส่งเสริมสภาการป้องกันแห่งชาติและความเคลื่อนไหวอื่นๆอาจเป็นความพยายามที่จะสร้างสรรค์สถาบันเหล่านั้นขึ้นมาใหม่เพื่อช่วยเหลือในด้านการสืบทอดอำนาจ แต่คุณ กอร์ดอน เฟล็ก แห่งมูลนิธิแมนส์ฟีลด์คิดว่า ฐานะของคนภายในครอบครัวของนาย คิม จอง อิล นั้นมีลู่ทางว่าจะก่อให้เกิดความตึงเครียดในกลุ่มอำนาจเก่า ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ที่ผันผวนอยู่แล้วยิ่งทวีความไม่แน่นอนมากขึ้น

การทำงานของผู้ที่อยู่วงในด้านการเมืองของเกาหลีเหนือนั้นปกปิดเป็นความลับ ทำให้บรรดานักวิเคระห์และแม้แต่ชาวเกาหลีเหนือเองพากันคาดเดาไปต่างๆนานาในเรื่องที่ว่าความตึงเครียดจะสลายตัวไปอย่างไร?

ในวันพฤหัสบดี เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จะเจรจาเกี่ยวกับเรื่องการทหารเป็นครั้งแรกในรอบสองปี เรื่องหนึ่งที่จะนำมาเจรจากันได้แก่เรื่องที่เรือรบเกาหลีให้ลำหนึ่งจมลงเมื่อเดือนมีนาคม การสอบสวนของเจ้าหน้าที่ระหว่างประเทศโทษว่าเกาหลีเหนือเป็นผู้โจมตี นักวิเคราะห์บางส่วนคิดว่าเรื่องนั้นเป็นการกระทำที่วางแผนไว้เพื่อช่วยให้นายคิม จอง อัน มีท่าทีว่าเป็นบุรุษผู้เข้มแข็งก็ได้ แต่มีผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับทฤษฏีที่ว่านี้ แต่บรรดานักวิเคราะห์เห็นพ้องกันว่า ชนชั้นปกครองหัวกะทิของเกาหลีเหนือคงจะไม่แสดงความไม่พอใจตัวผู้นำที่นาย คิม จอง อิล เป็นผู้เลือกมาตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่ แต่ทว่าหลังจากเขาถึงแก่กรรมไปแล้ว มีเครื่องบ่งชี้น้อยเหลือเกินว่า ผู้นำวัยหนุ่มผู้ยังขาดประสพการณ์จะสามารถคุมอำนาจของเขาไว้ได้ท่ามกลางกลุ่มอำนาจเก่าผู้มีอาการหวาดระแวงว่าพวกเขาจะถูกทำร้ายนั้นหรือไม่?

XS
SM
MD
LG