กลุ่มธุรกิจ องค์กรเพื่อสังคมและเจ้าหน้าที่รัฐบาลของทั้งสหรัฐและญี่ปุ่นตกลงร่วมมือกันภายใต้การกำหนดแนวทางของรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อเร่งฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุดจากภัยพิบัติครั้งประวัติศาสตร์เมื่อเดือนที่แล้ว
ในวันอาทิตย์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฮิลลารี่ คลิ้นตัน พบปะกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น จากนั้นได้เข้าเฝ้าและร่วมดื่มน้ำชากับจักรพรรดิและจักรพรรดินีของญี่ปุ่น รวมทั้งพบปะเจรจากับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นนาโอโตะ คาน
รัฐมนตรีคลิ้นตันกล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นว่า ญี่ปุ่นคือหนึ่งในประเทศที่มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มากที่สุดในโลก ที่ผ่านมาเมื่อเกิดภัยพิบัติในประเทศใด ญี่ปุ่นจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือเสมอ และปัจจุบันหลายสิบประเทศทั่วโลกกำลังตอบแทนความมีน้ำใจของญี่ปุ่นแล้ว
ทางด้านรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นนาย Takeaki Matsumoto กล่าวแสดงความขอบคุณต่อความช่วยเหลือที่รัฐบาลอเมริกันจัดส่งให้ รวมถึงความช่วยเหลือจากฐานทัพสหรัฐในญี่ปุ่น ได้แก่กำลังทหาร 20,000 นาย เครื่องบินลำเลียงของทหารเกือบ 200 ลำ และกองเรือต่างๆที่เข้าช่วยเหลือในการบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยนอกจากนี้รัฐบาลสหรัฐยังได้จัดส่งผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์มายังญี่ปุ่นเพื่อช่วยญี่ปุ่นรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิม่า
ญี่ปุ่นกำลังถูกต่างชาติวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงความล่าช้าในการรับมือวิกฤตการณ์ทางนิวเคลียร์และความคลุมเคลือในการเปิดเผยข้อมูลที่แท้จริง เกี่ยวกับเรื่องนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น Takeaki Matsumoto ให้สัญญาว่าต่อไปญี่ปุ่นจะเปิดเผยข้อมูลปัญหาที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิม่าให้มากขึ้น โดยบอกว่าสิ่งที่ญี่ปุ่นจำเป็นต้องทำในขณะนี้คือพยายามควบคุมอุบัติภัยด้านนิวเคลียร์ดังกล่าวให้ได้ และต้องเปิดเผยข้อมูลความจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ประชาคมโลกรับรู้
ปัจจุบันนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นนาโอโตะ คาน กำลังเผชิญกับเสียงเรียกร้องมากขึ้นให้สละตำแหน่งเนื่องจากขาดความเป็นผู้นำในการตอบสนองต่อวิกฤตการณ์ด้านนิวเคลียร์ ในขณะเดียวกัน รัฐบาลญี่ปุ่นกับบรรษัทการไฟฟ้ากรุงโตเกียวหรือ TEPCO ยังคงประสบอุปสรรคในการควบคุมวิกฤตการณ์ดังกล่าว
กรรมการผู้จัดการใหญ่ของ TEPCO นาย Tsunehisa Katsumata กล่าวต่อผู้สื่อข่าวแสดงความหวังว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิม่าได้ภายในเวลา 6-9 เดือน โดยขั้นตอนสำคัญอันดับแรกคือการควบคุมระดับรังสีที่รั่วไหล ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาราว 3 เดือนจากนี้
