เมื่อเร็วๆ นี้ วิดีโอที่แสดงให้เห็นพี่น้องสองสาวชาวอินเดียสู้กับผู้ชายที่ก่อกวนเธอทางเพศบนรถโดยสารแพร่ออกไปทั่วประเทศ พี่น้องสองสาวที่ถูกผู้ชายสามคนบนรถโดยสารรังแกนี้ กำลังเดินทางจากมหาวิทยาลัยกลับบ้าน พี่สาวอายุ 22 ปี ส่วนน้องสาว 19 ปี
รายงานข่าวกล่าวว่า คนหนึ่งสู้มือเปล่า ส่วนอีกคนหนึ่งใช้เข็มขัดเป็นอาวุธ และสามารถเอาชนะผู้ชายสามคนนั้นได้ วิดีโอที่แพร่หลายออกไปนี้ ผู้โดยสารคนหนึ่งบนรถเป็นผู้ถ่ายภาพและโพสต์ออนไลน์
แต่ในขณะที่ผู้คนยกย่องชมเชยพี่น้องสองคนนี้ ก็มีผู้ตั้งคำถามว่า ทำไมจึงไม่มีผู้โดยสารคนอื่นๆ รวมทั้งคนขับ หรือคนเก็บตั๋วยื่นมือให้ความช่วยเหลือ
Ranjana Kumari ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยสังคมในกรุง New Delhi บอกว่าผู้ชายอินเดียมองว่า เรื่องที่เกิดเป็นความผิดของผู้หญิง นักวิจัยสังคมผู้นี้บอกว่า จิตวิทยาของสังคมอินเดียเป็นอย่างนั้น กล่าวคือ โทษว่าเป็นความผิดของผู้หญิง ออกไปหาเรื่องเอง สวมเสื้อผ้ารัดตัวเกินไป หรือไม่ก็วางตัวไม่ดี ซึ่งเป็นการมองของสังคมที่น่าเศร้าใจ
ส่วน Krishna Majumdar แห่ง National Federation of Women บอกว่าในสังคมที่ถือเพศชายเป็นใหญ่อย่างอินเดีย ทุกคนต้องร่วมรับผิด นักต่อสู้เคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรีผู้นี้บอกว่า สังคมแบบนี้มองผู้หญิงเป็นเพียงเครื่องเล่น และถ้าตนไม่ทำเอง ก็ดูคนอื่นทำได้
นักสังคมวิทยาและนักต่อสู้เพื่อสิทธิสตรีให้ความเห็นต่อไปว่า การขาดความเชื่อมั่นในการตำรวจและการรักษากฎหมาย เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ไม่มีใครอยากยื่นมือเข้าไปช่วย เพราะไม่เชื่อว่าผู้รักษากฎหมายจะคุ้มครองตน
Dipankar Gupta นักสังคมวิทยาในกรุง New Delhi ให้ความเห็นว่า จะต้องมีตัวบทกฎหมายลงโทษคนที่รู้ว่ากำลังมีการก่ออาชญากรรมแต่ไม่ทำอะไร ในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิด
เรื่องความรุนแรงทางเพศต่อผู้หญิงในอินเดีย เป็นที่สนใจของนานาชาติ หลังกรณีการข่มขืนหญิงสาววัย 23 ปี อย่างโหดร้ายบนรถโดยสาร เมื่อราวๆ สองปีที่แล้ว และแม้จะมีการออกและบังคับใช้กฎหมายในเรื่องนี้อย่างเข้มงวดกวดขันมากขึ้น นักต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี ยืนยันว่าจะรณรงค์ต่อสู้เรื่องให้ได้ผลจริง ก็จะต้องเปลี่ยนทัศนะของสังคมต่อผู้หญิงกันอย่างมาก
