นักวิเคราะห์ชี้ การรณรงค์ต่อต้านคอรัปชั่นในอินเดียเป็นพลังทางการเมืองพลังใหม่ที่เสริมสร้างความเข้มแข็งให้ประชาธิปไตยของอินเดีย

ในอินเดีย เป็นที่เห็นกันว่า การเคลื่อนไหวของสังคมพลเรือนที่กดดันให้รัฐสภาต้องสนับสนุนข้อเรียกร้องของนักรณรงค์ อันนา ฮาซาเร ที่ให้มีกฏหมายต่อต้านคอรัปชั่นที่เข้มงวดกวดขันขึ้นนั้น กำลังเป็นพลังใหม่ในการเมืองของอินเดีย หลายคนเห็นว่า การรณรงค์ต่อต้านคอรัปชั่นที่ตอกย้ำให้ประชาชนทั่วประเทศตระหนักในปัญหานี้ กำลังเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ประชาธิปไตยของอินเดีย

นายอันนา ฮาซาเร วัย 74 ปี ยุติการอดอาหารประท้วง 12 วันในกรุงนิวเดลลีเมื่อวันอาทิตย์ หลังจากที่รัฐสภายอมผ่อนปรนให้รวมข้อเรียกร้องสำคัญของเขาไว้ในร่างรัฐบัญญัติที่กำลังพิจารณากัน เขากล่าวว่า การสนับสนุนของประชาชนทุกเพศทุกวัยหลายหมื่นคนทั่วประเทศ ช่วยให้การรณรงค์ของเขาเพื่อให้อินเดียมีกฏหมายต่อต้านคอรัปชั่นที่เข้มงวดกวดขันกว่าเดิมและทรงอำนาจมากขึ้นนั้น ประสบความสำเร็จ เขาปราศรัยต่อประชาชนที่มาชุมนุมแสดงความยินดีว่า รัฐสภาของประชาชนยิ่งใหญ่กว่ารัฐสภาที่กรุงนิวเดลลี

สื่อมวลชนอินเดียยกย่องสดุดีความสำเร็จนี้ว่าเป็น “ชัยชนะของประชาชน” และเป็นครั้งแรกในเวลาหลายสิบปีที่สื่อมวลชนอินเดียได้เห็นคนชั้นกลางในเขตเมือง ออกมาชุมนุมพร้อมเพรียงกันตามถนนสายต่าง ๆ เป็นจำนวนมากมายเช่นนี้

นักวิเคราะห์การเมืองในกรุงนิวเดลลี Prem Shankar Jha ความสำเร็จของการเคลื่อนไหวรณรงค์นี้ เป็นจุดพลิกผันในประชาธิปไตยของอินเดีย และเป็นการเริ่มต้นประชาธิปไตยที่ทรงอำนาจอย่างแท้จริง

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ชนชั้นทางการเมืองรู้สึกผงะ และรู้สึกถึงพลังการเคลื่อนไหวนั้น นายอรุณ เจตลี ผู้นำพรรคฝ่ายค้านภารติยะชานะตะ แถลงต่อรัฐสภาว่า เสียงของประชาชนจะต้องได้รับการรับฟังขณะที่มีการพิจารณาร่างรัฐบัญญํติในรัฐสภา เขากล่าวว่า ในสังคมพัฒนาและมีวุฒิภาวะใด ๆ ก็ตามจะมีบทบาทไว้สำหรับสังคมพลเรือน

อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของนายฮาซาเร และ การใช้วิธีอดอาหารเพื่อบรรลุเป้าหมายของเขานั้น ถูกบางคนตำหนิว่า เป็นการทำตัวอย่างที่อันตราย

บรรดานักวิเคราะห์การเมืองกล่าวว่า การประท้วงของนายฮาซาเร เน้นให้เห็นว่า ชนชั้นทางการเมืองไม่ตระหนักถึงความวิตกกังวลของประชาชนในปัญหาคอรัปชั่นที่หยั่งรากลึก และว่าความสำเร็จของการประท้วงนั้น จะกดดันให้บรรดาเจ้าหน้าที่ให้ความสนใจแก่ความเห็นของประชาชนมากขึ้น