กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF เผยแพร่รายงานเศรษฐกิจโลกสำหรับไตรมาสแรกของปีนี้ออกมา ที่กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวจากวิกฤติการเงินได้เร็วกว่าที่คาดไว้ แต่ก็เตือนไว้ด้วยว่า ให้ระมัดระวังความเสี่ยงที่อาจแพร่กระจายมาจากยุโรป
รายงานของ IMF กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายออกไปในอัตรา 4.6% ในปีนี้ เพิ่มจาก 4.1% ที่ IMF คาดไว้ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ส่วนใหญ่ของการเติบโตนี้มาจากเอเชียและความต้องการที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ
ในขณะเดียวกัน รายงานของ IMF ฉบับนี้เตือนไว้ด้วยว่า ภาวะความเสี่ยงที่มองเห็นในเวลานี้ จะมาจากยุโรปเป็นส่วนใหญ่ และว่าประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรปจะต้องเร่งรีบดำเนินการสร้างเสถียรภาพให้กับระบบการเงิน และลดภาระหนี้สินของประเทศ และว่าความไม่แน่ใจในสภาพการเงินของกรีซและประเทศอื่นๆใน EU ที่มีภาระหนี้สินล้นพ้นตัว อาจแพร่กระจายและส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในส่วนอื่นๆของโลกได้
แต่นักเศรษฐศาสตร์บางคนให้ความเห็นว่า ภาวะเสี่ยงในประเทศจีนน่าเป็นห่วงมากกว่าในยุโรป
นาย Tim Condon หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทเงินทุน ING ในสิงคโปร์ บอกว่า IMF มองข้ามปัญหาที่มาจากราคาทรัพย์สินในจีนที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
นักเศรษฐศาสตร์ผู้นี้กล่าวว่า เรื่องจีนสำคัญกว่า เศรษฐกิจจีนโตในอัตราเกือบ 12% ในไตรมาสแรกของปีนี้ และโอกาสที่จะชลอตัวลงอย่างฮวบฮาบก่อนสิ้นปีทำให้ตลาดหุ้นค่อนข้างหวั่นไหวกันทีเดียว
อย่างไรก็ตาม นาย Olivier Blanchard ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ IMF ไม่คิดว่า จะเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำซ้ำเป็นครั้งที่สองอีก
และ IMF เปลี่ยนอัตราการโตของจีนจาก 10% เป็น 10.5% ญี่ปุ่นจาก 1.9% เป็น 2.4% และอินเดียเพิ่มขึ้นเป็น 9.4% จาก 8.8%
ส่วนของสหรัฐปรับจาก 3.1% เป็น 3.3% ในขณะที่ของยุโรปยืนอยู่ที่ 1%
ส่วนห้าประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวคือ อินโดนีเซีย มาเลย์เซีย ฟิลิปปินส์ ประเทศไทย และเวียตนามนั้น IMF คาดว่าจะโตในอัตราเฉลี่ย 6.4% สำหรับปีนี้ และ 5.5% ในปีหน้า
สำหรับปีค.ศ. 2011 นั้น กองทุนการเงินระหว่างประเทศคาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะชลอตัวลง เพราะการใช้จ่ายของรัฐบาลต่างๆทั่วโลกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2008 จะสิ้นสุดลง