ลิ้งค์เชื่อมต่อ

หญิงติดเชื้อเอชไอวีในแอฟริกามีชีวิตอยู่ได้นานขึ้นเพราะใช้ยาต้านไวรัส


PEPFAR says adolescent girls and young women disproportionally affected by HIV/AIDS. (Credit: PEPFAR)
PEPFAR says adolescent girls and young women disproportionally affected by HIV/AIDS. (Credit: PEPFAR)

ผลการศึกษาชิ้นล่าสุดชี้ว่าการบำบัดการติดเชื้อเอชไอวีด้วยยาต้านไวรัสช่วยให้ผู้หญิงติดเชื้อมีชีวิตยืนยาวกว่าผู้ติดเชื้อชายหลายปี

การศึกษาระยะยาวชิ้นใหม่ที่จัดทำในแอฟริกานี้ได้วิเคราะห์ประสิทธิผลของการรักษาการติดเชื้อเอชไอวี ด้วยยาต้านไวรัสที่เรียกว่าการบำบัดแบบ A-R-T ที่เริ่มใช้อย่างแพร่หลายในปีค.ศ. 2004 หรือเมื่อ 10 ปีที่แล้ว

คุณ Jacob Bor แห่งมหาวิทยาลัยการแพทย์ Boston และผู้ร่วมงาน ได้วิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับการบำบัดเชื้อเอชไอวีในจังหวัด KwaZulu-Natal ในประเทศแอฟริกาใต้ระหว่างปีค.ศ. 2001-2011 เขากล่าวว่าการบำบัดผู้ติดเชื้อเอชไอวีด้วยวิธีบำบัดนี้ ช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตผู้ติดเชื้อให้ดีขึ้นอย่างมาก อัตราการเสียชีวิตโดยรวมได้ลดลงและผู้ติดเชื้อมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น

คุณ Bor กล่าวว่าการศึกษาพบว่าผู้ติดเชื้อชายได้รับประโยชน์จากการบำบัดน้อยกว่าผู้ติดเชื้อหญิง เขายกตัวอย่างว่า ภายในช่วงไม่เกิน 12 ปี ผู้ติดเชื้อหญิงมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้นมากกว่า 13 ปีแต่ผู้ติดเชื้อชายมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้นกว่าเดิมราว 9 ปี

ต่อคำถามว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น คุณ Bor กล่าวว่ากว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ติดเชื้อชายที่เสียชีวิตไม่เคยเข้ารับการบำบัดเลย เเม้ว่าเป็นการบำบัดที่ฟรีและมีแพร่หลาย คุณ Bor กล่าวว่าผลการศึกษานี้ช่วยชี้ว่าจำเป็นต้องปรับปรุงวีธีชักจูงใจผู้ชายให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อและเข้ารับการบำบัด

คุณ Bor กล่าวว่าบ่อยครั้งที่ผู้ชายไปที่คลีนิคที่เต็มไปด้วยผู้หญิง ทำให้รู้สึกไม่สะดวกใจที่จะเข้ารับการตรวจหาเชื้อ เขาเห็นว่าควรมีคลินิคตรวจเชื้อเอชไอวีสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ

คุณ Bor กล่าวว่าทางออกอีกอย่างหนึ่งที่น่าจะช่วยส่งเสริมให้ผู้ชายในแอฟริกาตรวจหาเชื้อเอชไอวีกันมากขึ้น คือใช้วิธีตรวจหาเชื้อเอชไอวีด้วยตัวเองที่บ้าน

ซึ่งนอกจากจะเป็นส่วนตัวแล้วยังไม่ต้องลางานและเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพื่อไปรับการตรวจฟรีที่คลีนิค

ผลการศึกษาโดยคุณ Jacob Bor และทีมงานนี้ตีพิมพ์ในวารสาร PLOS ไปเมื่อเร็วๆ นี้


XS
SM
MD
LG