สมุนไพรจีนสี่ชนิดรวมกันซึ่งใช้กันมาหนึ่งพันแปดร้อยกว่าปีแล้วอาจช่วยลดอาการบิดในกระเพาะและลำไส้ ซึ่งเป็นอาการแทรกซ้อนอันเนื่องมาจากการใช้ยาต่อต้านโรคมะเร็ง ผลของการวิจัยศึกษาของนักวิจัยที่มหาวิทยาลัยเยล เมืองนิวเฮเวน รัฐคอนเน็คติคัตแสดงให้เห็นว่ายาสมุนไพร PHY906 ยังอาจช่วยให้เคมีบำบัดมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
ศาสตราจารย์ทางเภสัชวิทยายัง-ฉี เชิ้ง ที่มหาวิทยาลัยเยลซึ่งเป็นผู้อำนวยการร่วมด้านการพัฒนาการรักษาโรคเป็นหัวหน้าในการวิจัย ศาสตราจารย์ยัง-ฉี เชิ้ง กล่าวว่า ยาสมุนไพรทำจากดอกโบตั๋น ดอกสกัลแคพสีม่วง ชะเอมและผลบัคธอนมีท่าทางว่าจะช่วยลดอาการคลื่นไส้ อาการท้องร่วงและอาการกระเพาะเป็นตะคริวของผู้ที่ป่วยเป็นมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้เพราะยาสมุนไพรดังกล่าวทำปฎิกิริยากับโมเลกุลที่เป็นเป้าหมาย
ศาสตราจารย์ยัง-ฉี เชิ้ง และคณะนักวิจัยใช้วิธีเคมีบำบัดเพื่อรักษาเนื้องอกที่เป็นมะเร็งในหนูทดลอง วิธีการดังกล่าวทำให้เนื้องอกหดตัวได้ก็จริง แต่ก็ทำให้เยื่อบุในอวัยวะสำหรับช่วยย่อยอาหารเสียหายมากด้วย
แต่หลังจากให้ยาสุมนไพร PHY906 ไปสักสองสามวัน เยื่อบุในกระเพาะและลำไส้ของหนูเริ่มหายดี
ศาสตราจารย์ยัง-ฉี เชิ้ง กล่าวว่า ยาสมุนไพรดังกล่าวช่วยลดอาการลำไส้อักเสบและช่วยกระตุ้นให้เซลล์พื้นฐานเกิดขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะสามารถงอกงามขึ้นในเนื้อเยื่อใดๆในร่างกายได้
คณะนักวิจัยยังทดลองกับผู้ป่วยกลุ่มเล็กๆจำนวน 17 คน ซึ่งนอกจากจะพบว่าคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้นแล้ว ยังมีเครื่องบ่งชี้ด้วยว่ายาสมุนไพรนั้นอาจเพิ่มประสิทธิภาพของการบำบัดรักษาโรคมะเร็งด้วย
ศาสตราจารย์ยัง-ฉี เชิ้ง กล่าวว่า มีเครื่องบ่งชี้ว่ายาสมุนไพรจีนอาจลดการเติบโตของเนื้องอกได้
ขณะนี้ ศาสตราจารย์ผู้นั้นมีแผนจะวิจัยศึกษาในหมู่มนุษย์อย่างกว้างขวางยิ่งขึ้นและกล่าวว่าถ้ายาสมุนไพรดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพจริงแล้วก็อาจนำออกจำหน่ายในท้องตลาดภายในสามถึงห้าปีข้างหน้า ศาสตราจารย์ยัง-ฉี เชิ้ง ลงทุนตั้งบริษัทชื่อ PhytoCeutica ซึ่งเป็นผู้พัฒนายาสมุนไพรจีนโบราณ
บทความเกี่ยวกับการใช้ยาสมุนไพรจีนบำบัดอาการแทรกซ้อนที่เกิดจากการใช้เคมีบำบัดผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งนี้ลงพิมพ์อยู่ในวารสาร Science Translational Medicine