ลิ้งค์เชื่อมต่อ

IMF ชี้วิกฤติหนี้ในยุโรปยังคงคุกคามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก


IMF ลดการคาดการณ์อัตราการเติบโตของศก.โลกปีหน้าเหลือ 3.9% เนื่องจากความกังวลต่อวิกฤติหนี้ในยุโรปและการชะลอตัวของประเทศศก.ขนาดใหญ่

4 ปีหลังเกิดวิกฤติการณ์การเงินโลก ดูเหมือนเศรษฐกิจโลกยังไม่สามารถฟื้นตัวได้เต็มที่ อัตราการว่างงานในหลายประเทศยังอยู่ในระดับสูง และปัญหาหนี้ในยุโรปยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ตลาดการเงินโลกไม่สามารถก้าวหน้าไปได้

นาย Olivier Blanchard ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF ปรับลดการคาดการณ์อัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีหน้าลงจากระดับ 4.1% เหลือ 3.9% สืบเนื่องจากวิกฤติการณ์หนี้ในยุโรปและการชะลอตัวของประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่หลายประเทศ แต่ถึงกระนั้นนาย Olivier Blanchard ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่จุดจบของเศรษฐกิจโลก เพียงแต่การฟื้นตัวไม่เข้มแข็งอย่างที่คาดหวังกันไว้เท่านั้น

IMF เชื่อว่าเวลานี้ปัญหาหนี้ของยุโรปมาถึงจุดสำคัญซึ่งบรรดาผู้นำยุโรปต้องเร่งสร้างเอกภาพทางการเงินให้ได้โดยเร็ว รวมถึงการนำมาตรการใหม่ๆมาใช้ IMF ยังกล่าวเตือนถึงความเสี่ยงในกลุ่มยูโรโซน ซึ่งนักลงทุนหันไปลงทุนซื้อพันธบัตรของประเทศที่อยู่ทางเหนือของกลุ่มยูโรโซน เช่นเยอรมนี เนื่องจากมองว่ามีเสถียรภาพมากกว่าพันธบัตรของประเทศที่อยู่ทางด้านใต้ของกลุ่มยูโรโซน เช่นกรีซและสเปน โดยในวันพุธนี้นับเป็นวันแรกที่อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลเยอรมันมีค่าติดลบ หมายความว่านักลงทุนที่ซื้อพันธบัตรเงินกู้ของเยอรมนีต้องจ่ายเงินคืนให้แก่รัฐบาลเยอรมัน

ในขณะเดียวกัน ประธานระบบธนาคารกลางสหรัฐ Ben Bernanke แถลงต่อคณะกรรมาธิการของวุฒิสภาสหรัฐเมื่อวันอังคารว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการจ้างงานในสหรัฐชะลอตัวลงในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งนาย Bernanke บอกว่าการชะลอตัวลงทั้งในด้านการผลิตและการลงทุนในสหรัฐนั้น สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในยุโรป ประกอบกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าของสหรัฐซึ่งทำให้ปริมาณการส่งออกของสหรัฐลดลง

ทางด้านนักเศรษฐศาสตร์อย่างนาย Srinivas Thiruvadanthai ให้ความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในขณะนี้ว่า เป็นเพราะประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตรวดเร็ว เช่น จีน อินเดียและบราซิล ซึ่งเกินดุลการค้ามหาศาลกับสหรัฐและยุโรปในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมานั้น เศรษฐกิจกำลังชะลอตัวลงเช่นกัน เพราะเมื่อเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปอ่อนแอในระยะยาว ยอดเกินดุลการค้าของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่เหล่านั้นก็ลดลงตามไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ทางด้านนาย Sam Stovall นักวิเคราะห์ของ Standard & Poor’s มองโลกในแง่ดีว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจะดำเนินต่อไป นักวิเคราะห์ผู้นี้เชื่อว่าเศรษฐกิจจีนจะเติบโตมากกว่า 7% หรือ 8% ในปีนี้ เทียบกับระดับ 9% เมื่อปีที่แล้ว ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐตลอดทั้งปีคาดว่าจะเติบโตประมาณ 2% ซึ่งแม้จะเป็นตัวเลขที่ต่ำ แต่ถ็ถือได้ว่ากำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
XS
SM
MD
LG