นักธรณีวิทยาชาวสวิสรายงานว่า พืชที่ออกดอกได้นั้น มีต้นกำเนิดอย่างน้อยก็ 240 ล้านปี ก่อนยุคปัจจุบัน
เมื่อ 25 ปีที่แล้ว นักธรณีวิทยา Peter Hochuli ไปทำงานสำรวจอยู่ในประเทศนอร์เวย์ และพบสิ่งที่เป็นปริศนาในตัวอย่างดินที่ชักมาจากแกนตะกอนของพื้นโลก
สิ่งนั้นคือ ละอองเกสรดอกไม้ หรือละอองเรณูที่เขาเคยเห็นของยุค Cretaceous ซึ่งเป็นสมัยระหว่าง 144 – 65 ล้านปีก่อนยุคปัจจุบัน และเป็นช่วงเวลาที่อากาศของโลกค่อนข้างอบอุ่น ยังมีไดโนเสาร์ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและนกต่างๆ รวมทั้งพืชที่ออกดอกด้วย
แต่เมื่อนักธรณีวิทยาผู้นี้นำตัวอย่างดินไปวิเคราะห์เพื่อกำหนดอายุ กลับพบว่า ตัวอย่างดินนั้น อยู่ในยุค Triassic ซึ่งเก่าแก่กว่ายุค Cretaceous ราวๆ 100 ล้านปี
คำถามก็คือ จะปรับความแตกต่างระหว่างอายุของตัวอย่างดินกับละอองเกสรดอกไม้ที่ห่างกันถึง 100 ล้านปีนี้ได้อย่างไร คำตอบเท่าที่นักธรณีวิทยาผู้นี้คิดไว้ในตอนนั้นก็คือ อาจจะเป็นปัญหาการปนเปื้อนในห้องแลบ
แต่เวลานี้ นักธรณีวิทยา Peter Hochuli ซึ่งทำงานเป็นอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญทางพฤกษศาสตร์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัย Zurich ในสวิตเซอแลนด์ มีคำตอบใหม่แล้ว
งานของอาจารย์ Peter ในขณะนี้ มุ่งเน้นไปในเรื่องต้นกำเนิดของพืชที่ออกดอก และให้ความเห็นไว้ว่าวิวัฒน์มาจากพืชที่เกี่ยวกับสน เฟิร์น และละอองเกสรดอกไม้ทุกวันนี้ งานชิ้นล่าสุดของอาจารย์ Peter Hochuli ที่เพิ่งตีพิมพ์ลงในวารสาร Frontiers in Plant Science บรรยายถึงละอองเกสรดอกไม้ที่สะกัดออกมาจากแกนตะกอนในสวิตเซอแลนด์ และอายุที่กำหนดได้สอดคล้องกับปริศนาที่เขาพยายามหาคำตอบเมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว
อาจารย์ Peter เชื่อว่า ละอองเกสรดอกไม้ที่พบสืบทอดโดยตรงกับพืชที่ออกดอก และเชื่อแล้วในตอนนี้ว่า สิ่งที่ได้ค้นพบนับแต่นั้นมา ทั้งที่เป็นละอองเกสรดอกไม้และแซลล์สืบพันธุ์ หรือ spores นั้น มีอายุราวๆ 240 ล้านปี นอกจากนี้ ยังค้นพบด้วยว่า มีละอองเกสรดอกไม้ในทะเล Barents ซึ่งอยู่ห่างจากสวิตเซอแลนด์ไปราวๆ สามพันกิโลเมตรด้วย
ทั้งหมดนี้หมายความว่า พืชที่ออกดอกนี้ มีทั่วไปในโลกมากกว่าที่เคยคิดกันไว้
อย่างไรก็ตาม อาจารย์ Peter Hochuli นักพฤกษศาสตร์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัย Zurich บอกว่า ยังมีช่องว่างที่จะต้องศึกษากันต่อไปอีกมาก และบอกส่งท้ายว่า เป้าหมายในชีวิตของเขาต่อไปนี้ คือการค้นหารากเหง้า หรือกลุ่มพืชที่เป็นต้นกำเนิดของไม้ดอกให้ได้
เมื่อ 25 ปีที่แล้ว นักธรณีวิทยา Peter Hochuli ไปทำงานสำรวจอยู่ในประเทศนอร์เวย์ และพบสิ่งที่เป็นปริศนาในตัวอย่างดินที่ชักมาจากแกนตะกอนของพื้นโลก
สิ่งนั้นคือ ละอองเกสรดอกไม้ หรือละอองเรณูที่เขาเคยเห็นของยุค Cretaceous ซึ่งเป็นสมัยระหว่าง 144 – 65 ล้านปีก่อนยุคปัจจุบัน และเป็นช่วงเวลาที่อากาศของโลกค่อนข้างอบอุ่น ยังมีไดโนเสาร์ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและนกต่างๆ รวมทั้งพืชที่ออกดอกด้วย
แต่เมื่อนักธรณีวิทยาผู้นี้นำตัวอย่างดินไปวิเคราะห์เพื่อกำหนดอายุ กลับพบว่า ตัวอย่างดินนั้น อยู่ในยุค Triassic ซึ่งเก่าแก่กว่ายุค Cretaceous ราวๆ 100 ล้านปี
คำถามก็คือ จะปรับความแตกต่างระหว่างอายุของตัวอย่างดินกับละอองเกสรดอกไม้ที่ห่างกันถึง 100 ล้านปีนี้ได้อย่างไร คำตอบเท่าที่นักธรณีวิทยาผู้นี้คิดไว้ในตอนนั้นก็คือ อาจจะเป็นปัญหาการปนเปื้อนในห้องแลบ
แต่เวลานี้ นักธรณีวิทยา Peter Hochuli ซึ่งทำงานเป็นอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญทางพฤกษศาสตร์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัย Zurich ในสวิตเซอแลนด์ มีคำตอบใหม่แล้ว
งานของอาจารย์ Peter ในขณะนี้ มุ่งเน้นไปในเรื่องต้นกำเนิดของพืชที่ออกดอก และให้ความเห็นไว้ว่าวิวัฒน์มาจากพืชที่เกี่ยวกับสน เฟิร์น และละอองเกสรดอกไม้ทุกวันนี้ งานชิ้นล่าสุดของอาจารย์ Peter Hochuli ที่เพิ่งตีพิมพ์ลงในวารสาร Frontiers in Plant Science บรรยายถึงละอองเกสรดอกไม้ที่สะกัดออกมาจากแกนตะกอนในสวิตเซอแลนด์ และอายุที่กำหนดได้สอดคล้องกับปริศนาที่เขาพยายามหาคำตอบเมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว
อาจารย์ Peter เชื่อว่า ละอองเกสรดอกไม้ที่พบสืบทอดโดยตรงกับพืชที่ออกดอก และเชื่อแล้วในตอนนี้ว่า สิ่งที่ได้ค้นพบนับแต่นั้นมา ทั้งที่เป็นละอองเกสรดอกไม้และแซลล์สืบพันธุ์ หรือ spores นั้น มีอายุราวๆ 240 ล้านปี นอกจากนี้ ยังค้นพบด้วยว่า มีละอองเกสรดอกไม้ในทะเล Barents ซึ่งอยู่ห่างจากสวิตเซอแลนด์ไปราวๆ สามพันกิโลเมตรด้วย
ทั้งหมดนี้หมายความว่า พืชที่ออกดอกนี้ มีทั่วไปในโลกมากกว่าที่เคยคิดกันไว้
อย่างไรก็ตาม อาจารย์ Peter Hochuli นักพฤกษศาสตร์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัย Zurich บอกว่า ยังมีช่องว่างที่จะต้องศึกษากันต่อไปอีกมาก และบอกส่งท้ายว่า เป้าหมายในชีวิตของเขาต่อไปนี้ คือการค้นหารากเหง้า หรือกลุ่มพืชที่เป็นต้นกำเนิดของไม้ดอกให้ได้
