รายงานการสำรวจของบริษัท IBM เรื่องปัญหาของการจราจรในเมืองใหญ่ หรือ Commuter Pain Study สำรวจข้อมูลจากคนทำงาน 8000 คน ในเมืองใหญ่ 20 เมืองทั่วโลก เกี่ยวกับเวลาที่ใช้ไปในการเดินทางไปทำงานและกลับบ้านในแต่ละวัน ตลอดจนผลกระทบด้านจิตใจจากการจราจรที่ติดขัด พบว่า 1 ใน 3 ของกลุ่มตัวอย่าง มีความเครียดเพิ่มขึ้น หงุดหงิดง่าย บางคนตัดสินใจไม่ไปทำงานหันหลังกลับบ้านเลยก็มี
สำหรับเมืองที่มีการจราจรเลวร้ายที่สุดในการสำรวจของ IBM ชิ้นนี้ คุณ Naveen Lamba เจ้าหน้าที่บริษัท IBM ระบุว่า ได้แก่ กรุงปักกิ่ง เม็กซิโกซิตี้ และนครโจฮันเนสเบิร์กในอาฟริกาใต้ ส่วนเมืองใหญ่ที่มีการจราจรคล่องตัวที่สุดนั้น คุณ Lamba บอกว่าได้แก่กรุงสต๊อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ซึ่งมีโครงการพิเศษหลายโครงการเพื่อลดปัญหาจราจรที่ใช้ได้ผล ตัวอย่างเช่นโครงการเก็บเงินค่าธรรมเนียมผู้ที่ขับรถยนต์เข้าเมือง และโครงการสนับสนุนให้ประชาชนใช้ระบบขนส่งมวลชน ซึ่งช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดลงได้ราว 20-25% นอกจากนี้ยังมีโครงการให้ข้อมูลสภาพการจราจรในขณะนั้นแก่ผู้ขับขี่รถยนต์ด้วย
สำหรับในสหรัฐ เมืองใหญ่ที่มีการจราจรคล่องตัวที่สุดในการสำรวจของ IBM คือ นครฮิวสตัน รัฐเท็กซัส ซึ่งแม้จะเป็นเมืองที่กำลังขยาย มีคนทำงานย้ายเข้าไปมากมาย แต่ด้วยการบริหารจัดการและการวางแผนด้านคมนาคมที่มีประสิทธิภาพ ปัญหาการจราจรในฮิวสตันจึงไม่รุนแรงเหมือนเมืองใหญ่อื่นๆ
คุณ Alan Clark ผอ.ฝ่ายวางแผนการคมนาคมเขตนครฮิวสตัน ระบุว่า การจราจรติดขัดนั้น ก่อให้เกิดความสูญเสียแก่ชาวเมืองเฉลี่ยคนละมากกว่า 1,000 ดอลล่าร์ต่อปี และยังก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศจากควันเสียที่มาจากรถยนต์ ยิ่งรถติดนาน ควันเสียก็ยิ่งมากขึ้น ซึ่งผลกระทบทางสุขภาพและสิ่งแวดล้อมนี้เป็นสิ่งที่น่าห่วงสำหรับผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่ๆ และเพื่อลดปัญหาการจราจร นครฮิวสตันได้จัดตั้งโครงการลดอุบัติเหตุ ตลอดจนโครงการสนับสนุนให้คนส่วนใหญ่ทำงานอยู่ที่บ้านและใช้ระบบขนส่งมวลชนเมื่อจะไปที่ทำงาน รวมทั้งส่งเสริมเว็บไซต์อย่าง NuRide ซึ่งเป็นเว็บไซต์สำหรับผู้ที่ต้องการหาเพื่อนนั่งรถยนต์มาทำงานร่วมกันหลายๆคน
คุณ Clark บอกว่าสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนกับ NuRide เพื่อร่วมโดยสารกับเพื่อนในที่ทำงานเดียวกันหรือละแวกใกล้กัน จะได้รับคูปองส่วนลดสำหรับร้านอาหารและร้านค้าต่างๆเป็นของแถมด้วยนะครับ และผอ.ฝ่ายวางแผนการคมนาคมผู้นี้ยังฝากบอกด้วยว่า การแก้ปัญหาการจราจรติดขัดในระยะยาวนั้น ไม่ใช่เร่งสร้างถนนเพิ่ม แต่เป็นการปรับเปลี่ยนรูปแบบวางผังเมืองเสียใหม่ และที่สำคัญต้องปรับทัศนคติในการเดินทางของผู้คนในเมืองใหญ่ ให้ใช้รถยนต์กันน้อยลงด้วย
