ขณะที่มีการตระหนักกันมาขึ้นในเรื่องโรคอ้วนในเด็ก ชุมชนต่างๆ ในสหรัฐ ทั้งระดับท้องถิ่นและระดับรัฐ กำลังหาวิธีการใหม่ๆ มาใช้ในการต่อสู้กับโรคนี้ อย่างที่รัฐเวอร์มอนท์ โรงเรียน 57 แห่งกำลังส่งเสริมให้เด็กๆ รับประทานผักสดและผลไม้สดอย่างเอาจริงเอาจัง
ในเวลา 30 ปีที่ผ่านมา อัตราการเป็นโรคอ้วนในวัยเด็กในสหรัฐเพิ่มขึ้นเท่าตัว และในหมู่เด็กวัยรุ่นหนุ่มสาวเพิ่มขึ้น 3 เท่า และเด็กที่เป็นโรคอ้วนหรือน้ำหนักมากเกินขนาด มักเป็นโรคเบาหวานชนิดสอง โรคความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ
ตามตัวเลขของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐนั้นเด็กวัยก่อนเข้าเรียนจนถึงเด็กวัยรุ่นในประเทศนี้ ราว 12 % เป็นโรคอ้วน และส่วนใหญ่เป็นเด็กในครอบครัวรายได้น้อย ทางการสหรัฐกำลังพยายามหาวิธีต่อสู้กับโรคนี้ วิธีหนึ่งก็คือ การพยายามฝึกนิสัย ให้เด็กๆ รู้จักรับประทานอาหารอย่างถูกหลักโภชนาการ โดยเฉพาะการรับประทานผักและผลไม้สดเป็นประจำทุกวัน ซึ่งก็ต้องเริ่มกันที่โรงเรียน
ขณะที่เด็กในอเมริการาว 90 % เข้าโรงเรียน ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า โครงการสนับสนุนรับประทานผักและผลไม้สดที่โรงเรียน อาจช่วยต่อสู้กับโรคอ้วนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
โรงเรียน 57 แห่งในรัฐเวอร์มอนท์ได้รับทุนจากกระทรวงเกษตรสหรัฐปีละ 12,000 ดอลล่าร์ สำหรับการจัดให้เด็กนักเรียนมีผักสดผลไม้รับประทานทุกวันในช่วงพัก โรงเรียนที่อยู่ในข่ายที่จะได้รับความช่วยเหลือในโครงการนี้ จะต้องมีนักเรียนจากครอบครัวรายได้น้อยเป็นเปอร์เซ็นต์สูง ทั้งครูและผู้จัดการโรงครัวของโรงเรียนเม็ททะวี ที่เมืองพอว์เล็ทบอกว่า ทุนที่ได้มานั้นใช้ไปอย่างคุ้มค่า เพราะเด็กจำนวนมากไม่ได้รับประทานผักผลไม้สดที่บ้าน และเห็นว่า เพียงการพูดชี้แนะให้ฟังเฉย ๆ จะไม่ได้ผลเท่าการมีตัวอย่างหรือการสอนด้วยการให้ปฏิบัติจริง เพื่อให้เด็กๆ เข้าใจว่า สิ่งที่เด็ก ๆ เลือกรับประทานในวันนี้ จะมีผลต่อสุขภาพทั้งในปัจจุบันและเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ และการที่ได้รับประทานผักผลไม้เป็นประจำ ที่โรงเรียนจะกลายเป็นนิสัยที่เด็กจะนำไปปฏิบัติทึ่บ้านด้วย
เจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรสหรัฐกล่าวว่า โรงเรียนต่างๆ ในทั้ง 50 รัฐ กำลังเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการรับประทานผักและผลไม้สดซึ่งเริ่มมาได้สองปี และกำลังได้รับทุนเพิ่มจากปีละ 40 ล้านดอลลาร์เป็น 150 ล้านดอลลาร์ ดังนั้นจะมีโรงเรียนต่างๆ สามารถเข้าร่วมโครงได้มากขึ้นในปีหน้า
