หลังจากที่ได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือ NATO ประกอบกับการรับรองจากผู้บัญชาการทหารและอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล ประธานาธิบดีสหรัฐ Barack Obama แถลงต่อผู้สื่อข่าวในกรุงลิสบอนว่า ไม่มีเหตุผลสมควรอันใดที่วุฒิสภาสหรัฐจะไม่อนุมัติสนธิสัญญาลดอาวุธนิวเคลียร์ฉบับใหม่ระหว่างสหรัฐกับรัสเซียที่เรียกว่า START
ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวว่า อุปสรรคสำคัญที่สุดที่ขัดขวางสนธิสัญญาดังกล่าวคือการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายในรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งการพิจารณาเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ต้องอยู่เหนือการแบ่งแยกที่ว่านั้น โดยที่ผ่านมาบรรดาส.ว ของพรรครีพับลิกันต่างลังเลที่จะรับรองสนธิสัญญา START ด้วยเหตุผลว่าต้องการเวลาพิจารณาเพิ่มเติม แต่บรรดาประเทศในยุโรปรวมทั้งรัสเซียเอง ต่างออกมากล่าวว่าสนธิสัญญาฉบับใหม่นี้ควรอนุมัติในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะมีความมั่นคงปลอดภัยของยุโรปเป็นเดิมพัน
ในขณะเดียวกัน นาย Anders Fogh Rasmussen เลขาธิการใหญ่องค์การ NATO ประกาศว่ารัสเซียได้ตกลงให้ความร่วมมือกับ NATO เพื่อสร้างระบบป้องกันขีปนาวุธในยุโรปแล้ว ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของความสัมพันธ์แบบปรปักษ์ระหว่างรัสเซียกับองค์การ NATO ซึ่งยิ่งเลวร้ายลงเมื่อครั้งเหตุการณ์ที่รัสเซียบุกจอร์เจีย เลขาธิการใหญ่องค์การ NATO ยังบอกด้วยว่า ผลประโยชน์ที่จะได้จากระบบป้องกันขีปนาวุธนั้น คือการช่วยปกป้องน่านฟ้าของยุโรป ช่วยเตือนเมื่อมีภัยคุกคาม และยังอาจถึงขั้นสามารถยิงตอบโต้จรวดขีปนาวุธที่โจมตีมายังยุโรปได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในการแถลงต่อผู้สื่อข่าวครั้งล่าสุด ประธานาธิบดีรัสเซีย Dmitry Medvedev ระบุว่ารัสเซียยังคงมิได้ให้การสนับสนุนระบบป้องกันขีปนาวุธดังกล่าวอย่างสมบูรณ์ และยังคงรอข้อมูลเพิ่มเติมอยู่
ในอีกด้านหนึ่ง ระหว่างการประชุมสุดยอดองค์การ NATO ที่กรุงลิสบอนครั้งนี้ ประเด็นเรื่องปฏิบัติการในอัฟกานิสถานก็เป็นประเด็นสำคัญอีกเรื่องหนึ่งเช่นกัน โดยประธานาธิบดี Barack Obama ยังคงไม่ปิดโอกาสที่จะมีทหารสหรัฐประจำการในอัฟกานิสถานหลังจากปี คศ.2014 ซึ่งเป็นกำหนดเส้นตายที่จะถอนทหารต่างชาติออกจากอัฟกานิสถาน โดยประธานาธิบดีสหรัฐบอกว่าขึ้นอยู่กับสถานการณ์ความปลอดภัยของประชาชนอเมริกันไปจนถึงปี คศ.2014 นั้น
ประธานาธิบดีโอบาม่ายังได้แสดงความยินดีต่อการตัดสินใจของประเทศสมาชิกองค์การ NATO บางประเทศเช่น แคนาดาและอิตาลี ที่จะส่งกำลังทหารไปร่วมฝึกฝนทหารอัฟกานิสถานให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ก่อนการส่งมอบหน้าที่ความรับผิดชอบด้านความมั่นคงปลอดภัยให้แก่กองกำลังทหารอัฟกานิสถานต่อไป สำหรับการประชุมสุดยอดองค์การ NATO ครั้งต่อไปจะจัดที่สหรัฐในอีก 2 ปีข้างหน้า
