นายกรัฐมนตรีเยอรมนี นาง Angela Merkel กล่าวยกย่องผลการประชุมเมื่อคืนวันพุธที่กรุงบรัสเซลล์ว่า ประเทศในยุโรปกำลังเดินมาถูกทางแล้ว ยุโรปแสดงให้ทั่วโลกได้เห็นแล้วว่าสามารถจัดการรับมือกับวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ได้
ด้านประธานาธิบดีฝรั่งเศส Nicolas Sarkozy ระบุว่าข้อตกลงชุดใหม่นี้ถือเป็นการตอบสนองต่อวิกฤติการณ์หนี้ในกรีซที่กำลังลุกลามไปยังประเทศอื่นๆในกลุ่มยูโรโซนอย่างได้ผลและน่าเชื่อถือ และว่าบรรดาผู้นำยุโรปเห็นพ้องกันว่าต้องพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้วิกฤติเศรษฐกิจของกรีซส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปยังส่วนอื่นๆ ดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นกับสถาบันการเงินขนาดใหญ่ในอเมริกาเมื่อ 3 ปีก่อน ทางนายกรัฐมนตรีอังกฤษ David Cameron ชี้ว่าข้อตกลงครั้งนี้คือส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจโดยรวมของยุโรป รวมทั้งต่ออังกฤษซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกของกลุ่มยูโรโซน
ผู้นำยุโรปบรรลุข้อตกลงใน 3 มาตรการใหญ่ๆ หนึ่งคือธนาคารพาณิชย์ในยุโรปต้องปรับโครงสร้างเงินทุนหรือเพิ่มทุนเป็น 100,000 ล้านยูโร สองคือเจ้าหนี้ของกรีซต้องยอมขาดทุนจากพันธบัตรกรีซ 50% และสามคือจะเพิ่มขนาดกองทุนช่วยเหลือประเทศที่ประสบปัญหาการเงินในยุโรปเป็น 1 ล้านล้านยูโร เพื่อให้ครอบคลุมถึงประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่มีปัญหาหนี้เช่นกัน อย่างสเปนและอิตาลี โดยเฉพาะอิตาลีนั้นกำลังถูกกดดันให้ใช้มาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อลดภาระหนี้
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนชี้ว่าผู้นำยุโรปอาจมองโลกในแง่ดีได้เพียงระยะสั้นๆเท่านั้น คุณ Tobias Blatter นักเศรษฐศาสตร์ชาวยุโรปแห่ง Daiwa Capital Markets เชื่อว่าการประชุมสุดยอดเมื่อคืนวันพุธก่อให้เกิดคำถามขึ้นมากมาย ในขณะที่คุณ Simon Tilford แห่ง Center for European Reform ระบุว่าปัญหาสำคัญตอนนี้คือมาตรการใหม่ที่เพิ่งตกลงกันจะจูงใจให้นักลงทุนสนใจปล่อยเงินกู้ให้กับประเทศที่กำลังประสบปัญหาการเงินได้หรือไม่
ทางด้านคุณ Michael Hewson นักวิเคราะห์ตลาดแห่ง CMC Markets ในกรุงลอนดอน เชื่อว่ายังจะไม่มีแนวทางแก้ไขปัญหาที่ชัดเจนแบบปัจจุบันทันด่วนในขณะนี้ แต่ตลาดต่างๆต้องยอมรับสภาพความเป็นจริงและปรับตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ในสัปดาห์หน้า บรรดาผู้นำยุโรปจะร่วมประชุมอีกครั้งในการประชุมสุดยอดของกลุ่มประเทศ G-20 ที่ฝรั่งเศส ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่ยุโรปอาจต้องของความช่วยเหลือจากประเทศในส่วนอื่นๆ เช่นจีน เพื่อช่วยในการแก้ไขวิกฤติการณ์หนี้ของยุโรปครั้งนี้
