ลิ้งค์เชื่อมต่อ

นักวิจัยอเมริกันมั่นใจว่าจะสามารถพัฒนายาฆ่าเชื้อไวรัสแบบครอบจักรวาลได้ในอนาคต


นักวิจัยอเมริกันค้นพบสารเคมีกลุ่มหนึ่งที่หยุดยั้งเชื้อไวรัสที่เข้าไปในเซลล์ของผู้ติดเชื้อไม่ให้แตกตัวเพิ่มรวมทั้งเชื้อไวรัสมาร์บวก (Marburg) เชื้อไวรัสอีโบล่า (Ebola) ที่ทำให้เกิดโรคไข้เลือดออกชนิดหนึ่งและเชื้อไวรัสโรคพิษสุนัขบ้า โรคหัดและคางทูม

เชื้อไวรัสมีลักษณะประหลาดอย่างหนึ่ง แม้ว่าจะตายไปแล้ว เชื้อไวรัสมีโครงสร้างทั่วไปทางพันธุกรรมที่ช่วยให้มันก่อให้เกิดโรคได้ แต่เชื้อไวรัสไม่มีความสามารถแพร่พันธุ์ได้ในตัว เหมือนกับเชื้อเเบคทีเรีย ที่แตกตัวเพิ่มจำนวนขึ้นจากดีเอ็นเอของตัวมันเองหลังจากเข้าไปในร่างกายของคน

คุณจอห์น คอนเน่อร์ นักไวรัสวิทยาที่มาวิทยาลัย Boston University ในรัฐ Massachusettes อธิบายว่า เชื้อไวรัสจะแตกตัวในร่างกายผู้ติดเชื้อได้หลังจากเข้าไปอยู่ในเซลล์ในร่างกายเสียก่อน แล้วมันจะควบคุมให้เซลล์เป็นตัวสร้างสำเนาเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น

คุณคอนเน่อร์กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าเชื้อไวรัสเป็นเชื้อปรสิท ที่เข้าไปข้างในตัวเซลล์ของสิ่งมีชีวิตก่อนที่แตกตัวเพิ่มจำนวนเพื่อก่อให้เกิดโรค นักวิจัยต้องการหาคำตอบให้ได้ว่าหากต้องการทำลายเชื้อไวรัสในตัวผู้ติดเชื้อ เราจะทำได้อย่างไรโดยไม่ไปทำลายเซลล์ในร่างกายของผู้ติดเชื้อ

คุณคอนเน่อร์และผู้ร่วมงานได้ทำการศึกษาคุณสมบัติของส่วนประกอบของสารเคมีหลายพันชนิดเพื่อค้นหาส่วนประกอบเคมีที่มีฤทธิ์รุนแรงในการกำจัดเชื้อไวรัสที่เข้าไปในร่างกายผู้ป่วย

ทีมงานค้นพบโมเลกุลขนาดเล็กจำนวนหนึ่งของสารประกอบทางเคมีที่สามารถสกัดการแตกตัวของกลุ่มเชื้อโรคที่เรียกกันว่าเชื้อไวรัส NNS ได้แก่ไวรัสมาร์บวก (Marburg) และไวรัสอีโบล่า (Ebola) ที่ก่อให้เกิดโรคไข้เลือดออกชนิดหนึ่ง ตลอดจนเชื้อไวรัสโรคหัดและโรคคางทูม

เมื่อเชื้อไวรัสในกลุ่ม NNS เข้าไปในเซลล์ในร่างกายผู้ติดเชื้อ เชื้อไวรัสเหล่านี้จะใช้โมเลกุลในพันธุกรรมของมันเอง ที่เรียกว่า RNA เข้าไปควบคุมกลไกการทำงานของเซลล์ในร่างกายผู้ติดเชื้อและบังคับให้เซลล์ในร่างกายผู้ติดเชื้อสร้างสำเนาไวรัสตัวใหม่ๆออกมา

ในการทดลองปลูกเซลล์หลายครั้งในห้องทดลอง ทีมนักวิจัยค้นพบส่วนประกอบของสารเคมีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการหยุดยั้งกลไกการแตกตัวของเชื้อไวรัสในเซลล์ร่างกายผู้ป่วย ด้วยการควบคุมการผลิตพันธุกรรม RNA ของเชื้อไวรัส

แต่นักวิจัยพบว่าสารเคมีที่ค้นพบไม่สามารถสกัดกั้นการแพร่ตัวของเชื้อไวรัสได้ทุกชนิดและใช้ไม่ได้ผลกับเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคเอดส์เนื่องจากเชื้อไวรัสเอดส์เข้าไปในตัวเซลล์และแทรกแซงการทำงานของเซลล์แตกต่างไปจากเชื้อไวรัสตัวอื่นๆ

คุณคอนเน่อร์ นักวิจัยหวังว่าผลการศึกษานี้อาจจะนำไปสู่การพัฒนายาต้านไวรัสแบบครอบจักรวาลเพื่อบำบัดการติดเชื้อไวรัสที่ยังรักษาไม่ได้ในปัจจุบัน คล้ายๆกับยาปฏิชีวนะที่ใช้บำบัดการติดเชื้อเเบคทีเรีย

คุณคอนเน่อร์กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่าทีมงานต้องการค้นหาตัวยาที่มีประสิทธิภาพในการสกัดกั้นระบบการแตกตัวของเชื้อไวรัสในเซลล์ร่างกายผู้ติดเชื้อเพื่อไม่ให้เกิดโรค หากทำได้ ก็จะเป็นหนทางนำไปสู่การพัฒนายาตัวใหม่ขึ้นมาบำบัดการติดเชื้อไวรัสเหล่านี้ได้ในอนาคต
XS
SM
MD
LG