ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ไต้หวันยังเรียกโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ว่า “โรคปอดอักเสบอู่ฮั่น”


ขณะที่คนทั่วโลกส่วนใหญ่เรียกต้นเหตุของวิกฤติสาธารณสุขที่มีการระบาดไปทั่วโลกในเวลานี้ว่า โควิด-19 เจ้าหน้าที่รัฐบาลไต้หวันยังคงเรียกชื่อวิกฤตินี้ว่าเป็น “โรคปอดอักเสบอู่ฮั่น”

การเรียกชื่อไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ โดยยังคงความเกี่ยวเนื่องกับประเทศจีน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาดใหญ่ครั้งนี้ เป็นประเด็นการเมืองระหว่างสหรัฐฯ และจีนมาก่อน จนกระทั่งรัฐบาลกรุงปักกิ่งแสดงความไม่พอใจออกมา ทำให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เคยเรียกว่า “ไวรัสจีน” ยอมเลิกใช้คำนี้ไป เพราะไม่ต้องการให้เกิดปัญหากับชาวอเมริกันเชื้อสายจีนในประเทศ

แต่ที่ไต้หวัน เจ้าหน้าที่ทางการยังคงใช้คำว่า โรคปอดอักเสบอู่ฮั่น เมื่อพูดเป็นภาษาจีนอยู่ ขณะที่สื่อในไต้หวันเองบางครั้งใช้คำว่า โรคปอดอักเสบอู่ฮั่นจีน เลยทีเดียว

นักวิเคราะห์คาดกันว่า จุดยืนที่เปิดเผยของไต้หวันเช่นนี้ อาจทำให้ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างรัฐบาลกรุงไทเป และรัฐบาลกรุงปักกิ่ง ยิ่งแย่ลงไปกว่าที่เป็นอยู่

จ้าว เฉียนหมิน อธิการบดีแห่งมหาวิทยาลัยวัฒนธรรมจีน ในกรุงไทเป กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองย่ำแย่ลง โดยเฉพาะหากยังมีการเรียกชื่อโดยพาดพิงถึงสถานที่ในจีน ที่ทำให้บรรยากาศยิ่งไม่เป็นมิตรกันขึ้นไปอีก

ทั้งนี้ ไต้หวันใช้ชื่อ โรคปอดอักเสบอู่ฮั่น ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดในช่วงปลายเดือนธันวาคมของปีที่แล้ว ก่อนที่องค์การอนามัยโลกจะตั้งชื่อทางการว่า โควิด-19 เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์

แต่การที่ศูนย์ส่างการโรคระบาดกลางของรัฐบาลไต้หวันยังคงใช้ชื่อเดิมในการแถลงข่าวประจำวัน พร้อมๆ กับชื่อภาษาอังกฤษว่า โควิด-19 ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันใช้ชื่ออู่ฮั่นอยู่ในบางโอกาส และชาวไต้หวันส่วนใหญ่ก็ทำเช่นนั้น เป็นเหมือนความตั้งใจของชาวไต้หวันที่ต้องการเหน็บแนบจีนต่อไป ซึ่งน่าจะทำให้สถานการณ์ระหว่างช่องแคบไต้หวันตึงเครียดขึ้นได้อีก

XS
SM
MD
LG