การเยือนครั้งนี้นับเป็นการพบหารืออย่างเป็นทางการครั้งแรกระหว่างผู้นำของจีนกับเกาหลีใต้ นับตั้งแต่ต่างฝ่ายเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี
นักวิเคราะห์ Wang Junsheng ของ National Institute of International Strategy ของสถาบันสังคมสาสตร์ของจีน บอกว่า การประชุมสุดยอดครั้งนี้ เปิดโอกาสให้จีนได้แสดงความชื่นชมรัฐบาลชุดใหม่ของเกาหลีใต้ในการจัดการกับเกาหลีเหนือในช่วงที่เกิดวิกฤติการณ์เมื่อไม่นานมานี้
นักวิเคราะห์ของสถาบันสังคมศาสตร์ของจีนผู้นี้กล่าวว่า เกาหลีใต้ได้แสดงความอดกลั้นและความมีเหตุผล ในขณะที่จีนมีความหงุดหงิดเพิ่มขึ้นกับการตัดสินใจของเปียงยางที่เดินหน้ากับการทดลองอาวุธนิวเคลียร์และจรวด แม้สหประชาติจะมีคำสั่งห้ามไว้ก็ตาม
ประธานาธิบดีเกาหลีใต้มีถ้อยแถลงออกมาเกี่ยวกับการเยือนจีนครั้งนี้ว่า เกาหลีใต้และจีนมีความเห็นร่วมกันว่า ต้องการให้เกาหลีเหนือเลิกล้มโครงการอาวุธนิวเคลียร์ รักษาสันติภาพและเสถียรภาพในคาบสมุทรเกาหลี และใช้การเจรจาเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหา
แต่นักวิเคราะห์ Dong Xiangrong ของโครงการเกาหลีศึกษาในสถาบันเอเชีย-แปซิฟิคศึกษาของสถาบันสังคมศาสตร์ของจีน บอกว่า ความแตกต่างระหว่างเกาหลีใต้กับจีนอาจทำให้ไม่สามารถกำหนดยุทธวิธีที่จะจัดการกับปัญหานี้ร่วมกันได้ เพราะในขณะที่จีนอยากจะเห็นคาบสมุทรเกาหลีทั้งหมดปลอดนิวเคลียร์ เกาหลีใต้สนใจอยู่เรื่องเดียว คือป้องกันไม่ให้เกาหลีเหนือพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ได้สำเร็จ
ในอีกด้านหนึ่ง ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐยังอาจเป็นอุปสรรคที่ทำให้จีนกับเกาหลีใต้ไม่ไว้ใจซึ่งกันและกันได้ด้วย
นอกจากเรื่องเกาหลีเหนือกับอาวุธนิวเคลียร์แล้ว เรื่องการค้าเป็นประเด็นสำคัญในการเยือนจีนครั้งนี้ด้วย มีนักธุรกิจชาวเกาหลีใต้ 71 คนร่วมคณะเดินทางไปกับประธานาธิบดี Park Geun-hye ด้วย ซึ่งมองกันว่าเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของจีนต่อเศรษฐกิจของเกาหลีใต้
การค้าระหว่างประเทศทั้งสองเพิ่มขึ้นกว่า 30 เท่าตัวนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1992 เป็นต้นมา เมื่อเกาหลีใต้กลับไปสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน มูลค่าการค้าระหว่างจีนกับเกาหลีใต้ในเวลานี้สูงถึงสองแสนล้านดอลล่าร์ต่อปี
การเยือนจีนของผู้นำเกาหลีใต้ครั้งนี้ยังแตกต่างกว่าครั้งก่อนๆด้วยในอีกด้านหนึ่ง กล่าวคือ ประธานาธิบดี Park Geun-hye ซึ่งเรียนภาษาจีนด้วยตนเอง จะไปแสดงปาฐกถาที่มหาวิทยาลัยในกรุงปักกิ่ง ส่วนหนึ่งของปาฐกถาจะเป็นภาษาจีน
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ยังจะเดินทางเยือนกรุงเก่า Xi’an ของจีนด้วย ซึ่งแม้บริษัท Samsung ของเกาหลีใต้จะกำลังลงทุนสร้างโรงงาน hi-tech มูลค่า 7 พันล้านดอลล่าร์อยู่ที่นั่น แต่นักวิเคราะห์ Dong Xiangrong บอกว่า อย่างน้อยก็ทำให้มองได้ว่า เป็นการแสดงว่าวัฒนธรรมจีนกับเกาหลีคล้ายคลึงกัน ซึ่งทำให้เกิดความรู้สึกสนิทสนมคุ้นเคยกันด้วยได้
