หลังจากการเจรจาต่อรองอย่างแข็งขันที่การประชุมประเทศกลุ่มจี 20 ซึ่งจีนเป็นเจ้าภาพ เจ้าหน้าที่จีนสามารถผลักดันให้ประเทศสมาชิก จี 20 ให้คำมั่นว่าจะยุตินโยบายปกป้องเศรษฐกิจภายในประเทศ ในระบบการค้าและการลงทุนโลก
จีนชี้ให้เห็นถึงข้อเสียของนโยบายกีดกันการค้า ที่สามารถกระทบต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจอย่างรุนแรงได้
อย่างไรก็ตาม คำมั่นดังกล่าวยังไม่เกิดผลทันที เพราะมีเงื่อนเวลาเริ่มการปฏิบัติจริงอีกสองปีจากนี้
การให้คำมั่นนี้ถือเป็นความสำเร็จของจีน แต่ฝ่ายปักกิ่งต้องยอมประเทศคู่เจรจาในเรื่องการอุดหนุนอุตสาหกรรมเหล็กของตน ซึ่งหลายประเทศเห็นว่าเป็นการไม่เป็นธรรม โดยก่อนหน้านี้สหรัฐฯ เคยตอบโต้อุตสาหกรรมเหล็กของจีนด้วยการใช้ภาษี 500% สำหรับสินค้าชนิดนี้จากจีน
อีกเรื่องหนึ่งที่จีนพยายยามผลักดัน คือการการแบ่งปันเทคโนโลยี เพื่อทำให้เกิดการพัฒนาระดับโลกในรูปแบบที่เท่าเทียมกัน และฝ่ายตะวันตกเห็นด้วยในหลักการเพราะต้องการให้สิทธิทรัพย์สินทางปัญญาของตนได้รับการคุ้มครอง
ประเทศกลุ่ม จี 20 ซึ่งเป็นประเทศร่ำรวย 20 อันดับแรกของโลก เห็นพ้องต้องกันว่าควรมีทางออกเชิงนโยบายสำหรับเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแรงลง ทางออกระยะยาวควรเกิดขึ้นมาทดแทนมาตรการระยะสั้น เช่น การใช้จ่ายเงินภาครัฐ หรือนโยบายการเงินแบบผ่อนปรน
ประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง กล่าวว่า ประเทศกลุ่ม จี 20 ตกลงกันว่าการปฏิรูปเพื่อส่งเสริมบทบาทของประเทศกำลังพัฒนาในกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และ ธนาคารโลก (World Bank) ควรดำเนินต่อไป และรวมถึงการเพิ่มการยอมรับของเสียงจากประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ด้วย
ความตกลงอีกประการหนึ่งเกี่ยวกับการสนับสนุนการค้าทวิภาคี และสร้างกรอบการลงทุนในระบบเศรษฐกิจโลก รวมถึงการสนับสนุนความโปร่งใสในตลาดพลังงานด้วย
