ก่อนที่จะถูกสังหาร นายอาหมัด วาลี คาไซ น้องชายต่างมารดาของประธานาธิบดีอาฟกานิสถาน ดำรงตำแหน่งประธานสภาจังหวัดกันดาฮาร์ แต่เขามีอำนาจอิทธิพลมากกว่าผู้ว่าราชการจังหวัดเสียอีก และนักวิเคราะห์มองว่าการเสียชีวิตของนายวาลี คาไซครั้งนี้ นับเป็นการสูญเสียทางการเมืองที่สำคัญของประธานาธิบดีฮามิด คาไซ เพราะนายวาลี คาไซ เป็นพันธมิตรทางการเมืองที่สำคัญและเคยคุมเสียงสนับสนุนทางการเมืองในพื้นที่ตอนใต้ของประเทศ โดยเฉพาะในจังหวัดกันดาฮาร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ของกลุ่มทาลีบันและมีแรงต่อต้านผู้นำอาฟกานิสถานอยู่มาก
อาจารย์ Larry Goodson แห่งวิทยาลัยการทัพบกของสหรัฐฯ มองว่า ประธานาธิบดีฮามิด คาไซ ซึ่งวาระการดำรงตำแหน่งจะสิ้นสุดลงในปี พ.ศ. 2557 และกฏหมายไม่อนุญาตให้เขาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมัยที่สาม กำลังพยายามหาทางแก้กฎหมายนี้อยู่เพื่อให้ตนสามารถอยู่ในอำนาจได้ต่อไป แต่การที่น้องชายต่างมารดาซึ่งมีอิทธิพลทางการเมืองต้องเสียชีวิตลงได้ส่งผลกระทบอย่างสำคัญต่อความพยายามที่ว่านี้ อาจารย์ Larry Goodson เชื่อว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอาฟกานิสถาน คือความสับสนวุ่นวายและการแก่งแย่งอำนาจทางการเมือง โดยเฉพาะในจังหวัดกันดาฮาร์จนอาจถึงขั้นนองเลือด เพื่อช่วงชิงช่องว่างที่เกิดขึ้นจากการเสียชีวิตของนายวาลี คาไซครั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากกลุ่มทาลีบันพยายามจะเข้ามามีส่วนเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ตามที่กลุ่มตนต้องการ
แต่ถึงแม้นักวิเคราะห์หลายคนจะมีความเห็นว่าการเสียชีวิตของนายวาลี คาไซจะส่งผลต่อฐานะทางการเมืองของประธานาธิบดีฮามิด คาไซก็ตาม นักวิเคราะห์บางคนกลับมองว่าเรื่องนี้จะเป็นผลดี เพราะช่วยแก้ปัญหาบางอย่างให้กับผู้นำของอาฟกานิสถานจากพฤติกรรมของน้องชายต่างมารดาได้ เนื่องจากนายวาลี คาไซมักถูกกล่าวหาว่าเป็นนักการเมืองที่ทุจริตฉ้อฉล และมีส่วนร่วมในอาชญากรรมและการค้ายาเสพติดต่างๆ หรือแม้กระทั่งถูกตั้งข้อสงสัยว่าได้รับเงินจากองค์การซีไอเอ ซึ่งนายวาลี คาไซขณะที่มีชีวิตอยู่ ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้โดยสิ้นเชิง
