จีนยืนยันสิทธิในการประกาศเขตระบุแจ้งเพื่อการป้องกันตนเองทางอากาศ

กระทรวงกลาโหมของจีนยังไม่มีท่าทีใดๆ ต่อการที่สหรัฐฯ ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 สองลำเข้าไปในน่านฟ้าเหนือทะเลจีนตะวันออก ซึ่งจีนประกาศก่อนหน้านี้ให้เป็นเขตระบุแจ้งเพื่อการป้องกันตนเองทางอากาศหรือที่เรียกว่า Air Defense Identification Zone เหนือบริเวณหมู่เกาะซึ่งเป็นกรณีพิพาทกับญี่ปุ่นในขณะนี้

โดยเมื่อวันเสาร์ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาจีนได้กำหนดให้เครื่องบินต่างชาติทุกลำที่บินผ่านน่านฟ้าดังกล่าวต้องระบุตัวเองให้จีนทราบและรับคำสั่งจากจีน มิฉะนั้นอาจมีการใช้มาตรการทางทหารได้ แต่เมื่อวันพุธโฆษกกระทรวงกลาโหมจีนย้ำว่าจีนมีขีดความสามารถในการควบคุมน่านฟ้าที่ว่านี้ได้ในอนาคต และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวว่าจีนได้ใช้สิทธิอันชอบธรรมในการป้องกันตนเองเพื่อสร้างเขตป้องกันทางอากาศนี้ขึ้นมา อย่างไรก็ตามนาย Carl Thayer นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงของ Australian Defense Force Academy ชี้ว่าสถานะทางกฎหมายของเขตที่จีนประกาศยังเป็นที่สงสัยอยู่เพราะเขตที่ว่านี้อยู่นอกน่านน้ำและน่านฟ้าอาณาเขต ซึ่งองค์การสหประชาชาติกำหนดให้ห่างจากชายฝั่งของแต่ละประเทศเพียงแค่ 12 กิโลเมตรเท่านั้น

นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าเหตุผลของจีนในการประกาศเขตนี้คือการอ้างสิทธิเหนือดินแดนในทะเลจีนใต้และทะเลจีนตะวันออก หรือเพื่อเป็นสัญญาณว่าจีนจะมีบทบาทมากขึ้นในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ส่วนนาย Randy Schriver ผู้อำนวยการสถาบัน Project 2049 ในกรุงวอชิงตันเชื่อว่าจีนต้องการเพิ่มความกดดันต่อญี่ปุ่น ซึ่งขณะนี้ยังไม่ยอมรับว่ามีกรณีพิพาทเรื่องดินแดนกับจีนเกี่ยวกับกลุ่มเกาะเซ็นกากุหรือที่จีนเรียกว่าเตียวหยู โดยญี่ปุ่นมองเรื่องการอ้างกรรมสิทธิเหนือกลุ่มเกาะดังกล่าวว่าเป็นกรณีพิพาททางการเมืองไม่ใช่ข้อพิพาทเรื่องดินแดน ญี่ปุ่นได้ผนวกกลุ่มเกาะเซ็นกากุนี้เข้าอยู่ในครอบครองในช่วงปลายทศวรรษที่ 19 ส่วนจีนนั้นเพิ่งกล่าวอ้างกรรมสิทธิเหนือกลุ่มเกาะนี้เมื่อปี 2514 โดยอ้างหลักฐานจากแผนที่เก่าว่าเกาะนี้เคยเป็นของจีนมานานหลายศตวรรษแล้ว