ในช่วงหลายปีหลังสงครามเขมรแดงสงบ ศิลปะของกัมพูชาแทบจะหายสาปสูญไปเลยทีเดียว แต่ในปัจจุบัน ศิลปินท้องถิ่นพากันสร้างสรรค์ผลงานออกมามากมาย แสดงถึงสังคมที่เข้ากลับสู่ภาวะปกติอย่างรวดเร็ว
คุณนิโค เมสเตอร์ฮาร์ม ผู้อำนวยการของหอศิลป์เมตตาเฮ้าส์ในกรุงพนมเปญ ย้ายมาอยู่ที่เมืองหลวงของกัมพูชาจากเยอรมันนีประเทศบ้านเกิดตั้งแต่ศิลปะกัมพูชายังเป็นงานที่สร้างสรรค์โดยกลุ่มจิตรกรหัวการค้าที่เน้นภาพลวดลายดั้งเดิมจากวรรณกรรม มาปัจจุบันศิลปินท้องถิ่นเริ่มเพิ่มแนวคิดใหม่ๆที่หยิบยืมมาจากศิลปะในประเทศอื่นๆเข้าไปในงานจิตรกรรมของตน
คุณนิคโค เมสเตอร์ฮาร์ม กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่า ศิลปินชาวเขมรได้เรียนรู้จากความรุ่งเรืองของงานศิลปะในประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ไทยและเวียดนาม และได้เอาแบบอย่างที่ประสบความสำเร็จในแต่ละประเทศเพื่อผสมผสานเข้ากับงานศิลปะของตนเอง
นี่ทำให้งานศิลปะของเขมรเริ่มคืบเข้าไปสู่ศิลปะแนวร่วมสมัยมากขึ้น ศิลปินผันตัวออกจากการวาดภาพเหมือนที่เป็นการก็อปปี้ภาพวิวทิวทัศน์และภาพคนที่เน้นรูปธรรมเป็นหลัก
Chhim Sothy เป็นหนึ่งในศิลปินรุ่นใหม่ชาวกัมพูชา ผลงานภาพจิตรกรรมของเขาแต่ละชิ้นขายได้ในราคาถึง 3,000 ดอลล่าร์สหรัฐหรือประมาณ เก้าหมื่นบาท มีการนำออกแสดงในหอศิลป์ต่างๆทั่วทวีปเอเชีย ยุโรปและในสหรัฐอเมริกาด้วย
งานภาพวาดของ Chhim Sothy ในช่วงแรกๆได้รับอิทธิพลจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของเขมรแดงมากพอๆกับอิทธิพลของศาสนาพุทธ มาเดี๋ยวนี้เขามองหาแรงบันดาลใจใหม่ๆอยู่ตลอดเวลาเพื่อสร้างสรรค์ผลงาน
Chhim Sothy จิตกรชาวกัมพูชากล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่า เขาชื่นชอบงานศิลปะแนวร่วมสมัยอย่างผลงานของปิกัสโซ่ วิลเลี่ยม คูนนิ่ง โกแกง และ แวน โก๊ะ ตอนนี้งานของเขาเปลี่ยนแปลงไปมาก เขาเริ่มวาดภาพเกี่ยวกับครอบครัว คนที่อยู่รอบๆตัว บางครั้งออกแนวนามธรรม หรือ abstract มากขึ้น และบางครั้งก็เป็นงานแนวเหมือนจริงไปเลย
คุณ Chhim Sothy ได้เรียนและฝึกฝนการวาดภาพขั้นพื้นฐานที่สถาบันศิลปะและวัฒนธรรม เขาเคยขายผลงานให้นักท่องเที่ยวชิ้นละสามดอลลาร์สหรัฐ จากวันนั้นถึงวันนี้ เขาประสบความสำเร็จและก้าวหน้ามาไกล
Chhim Sothy บอกว่า เขาสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆจากการผสมผสานสไตน์ศิลปะแนวคลาสสิกกับสิลปะแนวร่วมสมัย ผลงานของเขามีราคาแพงเพราะว่าเป็นการคิดค้นศิลปะแนวใหม่ที่เป็นตัวๆของตัวเอง
การฟื้นคืนของศิลปะกัมพูชา กับ การผสมผสานศิลปะแนวคลาสสิกเข้ากับอิทธิพลศิลปะร่วมสมัยจากนอกประเทศ สร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดต่อวัฒนธรรมท้องถิ่น ภาพยนตร์ การฟ้อนรำ และเพลงของกัมพูชาในปัจจุบันล้วนแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงนี้
แต่คุณนิคโค เมสเตอร์ฮาร์ม กล่าวว่า ยังมีปัญหาหลายอย่างในงานศิลปะท้องถิ่นในกัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผลงานต่างๆมักเน้นเสนอความสวยงามแต่เพียงด้านเดียว ศิลปินยังลังเลที่จะสร้างสรรค์งานที่นำเสนอปัญหาสังคมทั้งๆที่ปัญหาความยากจนและการฉ้อราษฏ์บังหลวงเป็นปัญหาหลักในกัมพูชา
คุณเมสเตอร์ฮาร์มกล่าวว่าผลงานส่วนใหญ่มีสีสันและศิลปินใช้วัสดุหลากหลายไม่ว่าจะเป็นศิลปะแขนงประติมากรรม จิตรกรรม และ การถ่ายภาพนิ่ง ศิลปินชาวกัมพูชายังพยายามสร้างผลงานแนวเขมร พวกเขาพยายามค้นหาเอกลักษณ์ของตนเอง และเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาหาเอกลักษณ์ของตนเองพบ เมื่อนั้นพวกเขาก็จะมีตลาดรองรับงานศิลปะเพราะความมีเอกลักษณ์ของงานศิลปะนี่เองที่ยังเป็นสิ่งที่ยังขาดอยู่ ทั้งในตลาดท้องถิ่นและในตลาดระดับนานาชาติ
