ความพยายามในการลดหรือแม้กระทั่งกำจัดก๊าซเรือนกระจกบนโลกยังคงเป็นหนึ่งในวิธีที่หลายฝ่ายพยายามดำเนินการเพื่อหวังลดความรุนแรงของภาวะโลกร้อนอยู่
และบริษัทสตาร์ทอัพ แคพทูรา (Captura) ที่ตั้งในเมืองพาซาดีนา รัฐแคลิฟอร์เนีย ดำเนินโครงการนำร่องบริเวณท่าเรือลอสแอนเจลิส แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการกำจัดคาร์บอนออกจากมหาสมุทรได้มากถึง 100 ตันต่อปี
สตีฟ โอลแดม ผู้บริหารสูงสุด บริษัทแคพทูร่า อธิบายว่า มหาสมุทรนั้นมีพื้นที่กว้างขวางและครอบคลุมพื้นที่บนโลกถึง 70% และเราสามารถใช้มหาสมุทรในการกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากชั้นบรรยากาศได้ ประโยชน์ของเทคโนโลยีนี้ก็จะมีคุณอย่างมาก
แฮร์รี แอตวอเตอร์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพแห่งนี้และเป็นนักวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย (California Institute of Technology - Caltech) กล่าวเสริมว่า มหาสมุทรนั้นทำหน้าที่ดูดซับ 1 ใน 3 ของก๊าซคาร์บอนในชั้นบรรยากาศโลกอยู่แล้ว
แอตวอเตอร์ กล่าวว่า หากเราสามารถทำให้ความเป็นกรดในมหาสมุทรหายไปโดยการลดคาร์บอนในน้ำทะเล น้ำบนพื้นผิวของมหาสมุทรก็จะทำหน้าที่ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เทคโนโลยีที่บริษัทแคพทูราใช้ในการดักจับคาร์บอนออกจากน้ำทะเลใช้ประโยชน์จากไฟฟ้าและน้ำเกลือเท่านั้น และทางบริษัทเตรียมที่จะเปิดศูนย์ปฏิบัติการอีกแห่งที่ประเทศนอร์เวย์ โดยคาดว่าจะสามารถดักจับคาร์บอนได้สูงถึง 1,000 ตันต่อปี
สองผู้ก่อตั้งสตาร์ตอัพนี้กล่าวว่า หากจะชะลอการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อย่างมีนัยสำคัญ เราจะต้องกำจัดคาร์บอนปริมาณหลายพันล้านตันออกจากมหาสมุทรให้ได้
แอตวอเตอร์ นักวิจัยจาก Caltech ระบุด้วยว่า ทุกวันนี้ ขณะที่ผู้คนใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลกันอย่างแพร่หลาย ก็มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 40 กิกะตันสู่ชั้นบรรยากาศในแต่ละปี และนั่นทำให้เกิดการสะสมของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งแปลว่า ถึงเวลาแล้วที่เราควรเลิกการกระทำดังกล่าว
บริษัทแคพทูราวางแผนที่จะพัฒนาและขยายเทคโนโลยีต้นแบบสำหรับกำจัดคาร์บอนให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น โดยความท้าทายที่สำคัญคือ การดำเนินการให้รวดเร็วมากพอ เพื่อให้สามารถรับมือได้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังเกิดขึ้น
- ที่มา: วีโอเอ
กระดานความเห็น