หอการค้าของพม่าและสหรัฐกล่าวต้อนรับคณะผู้แทนภาคธุรกิจจากสหรัฐอย่างอบอุ่น ในการประชุมในนครย่างกุ้งซึ่งถือเป็นการเจรจาการค้าที่มีผู้บริหารธุรกิจชาวอเมริกันเข้าร่วมมากที่สุด ตั้งแต่ผู้บริหารธุรกิจร้านอาหาร การเงิน ประกันภัย และอุตสาหกรรมเหมืองแร่และน้ำมัน
นาย Jose Fernandez ผช.รมต.ว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฝ่ายเศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวในการประชุมว่า พม่ากำลังมีความก้าวหน้าในการสร้างสัมพันธ์ทางการเงินและศก.กับประชาคมโลก และสหรัฐยินดีเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาศก.ทั้งในแนวกว้างและแนวลึกในพม่า ผช.รมต. Fernandez ยังบอกด้วยว่าการกระชับความสัมพันธ์ทางศก.กับพม่าครั้งนี้คือส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การค้าของสหรัฐในแถบเอเชียโดยรวม ซึ่งรวมถึงการค้ากับจีน อินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในการประชุมครั้งนี้ หอการค้าของทั้งสองประเทศได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจเพื่อเพิ่มความสัมพันธ์ทางการค้าของพม่ากับสหรัฐ โดยผช.รมต. Fernandez บอกว่าบริษัทสหรัฐจะช่วยให้ธุรกิจในพม่ามีมาตรฐานตามอย่างสากลทั้งในด้านของความโปร่งใส สิทธิแรงงาน สิ่งแวดล้อมและการใช้ที่ดิน นอกจากนี้ยังจะช่วยสร้างงาน พัฒนาคุณภาพชีวิตชาวพม่า และช่วยให้พม่าพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน
ในขณะเดียวกัน ผช.รมต.Fernandez เตือนว่าแม้มาตรการลงโทษทางศก.ของสหรัฐที่มีต่อพม่าได้รับการผ่อนคลายบางส่วน แต่ก็สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้เช่นกัน หากรัฐบาลพม่าไม่ดำเนินการปฏิรูปประเทศอย่างที่ให้สัญญาไว้ ซึ่งเรื่องนี้ยังคงสร้างความหนักใจให้กับบางบริษัทที่ต้องการขยายการลงทุนในพม่า
นาย Darren Brooks ที่ปรึกษาของบริษัทผลิตเครื่องจักรรายใหญ่ Caterpillar กล่าวกับ VOA ว่า ตนยังคงกังวลกับข้อจำกัดของการลงทุนในพม่า เพราะแม้ว่าจะมีการผ่อนคลายมาตรการลงโทษชั่วคราว แต่ก็มิได้หมายความว่าสามารถทุ่มเม็ดเงินลงทุนมหาศาลในพม่าได้ เนื่องจากมาตรการลงโทษอาจถูกนำกลับมาใช้ได้ทุกเวลา
ทางด้านนาย U Win Aung ประธานสหภาพแห่งสมาพันธ์หอการค้าและอุตสาหกรรมพม่า เชื่อว่าการที่สหรัฐและประเทศอื่นๆยกเลิกมาตรการลงโทษต่อพม่าอย่างถาวรนั้น จะมีความสำคัญยิ่งยวดต่อศก.พม่าในอนาคตโดยนาย U Win Aung ระบุว่าการยกเลิกมาตรการลงโทษพม่าทั้งหมดจะช่วยให้นักลงทุนกล้าเข้ามาลงทุนในพม่ามากขึ้น โดยไม่ต้องกังวลต่อศก.ยุคใหม่ของพม่า
และเพื่อให้การลงทุนในพม่ามีความราบรื่น เมื่อเร็วๆนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศยกเลิกข้อจำกัดบางอย่างต่อธนาคารใหญ่ที่สุด 4 แห่งของพม่า ซึ่งอนุญาตให้พลเมืองหรือบริษัทอเมริกันสามารถทำธุรกรรมกับธนาคารทั้ง 4 แห่งนั้นได้ รวมถึงธนาคาร 2 แห่งที่ควบคุมโดย 2 นักธุรกิจชาวพม่าคือนาย Tay Za และนาย Zaw Zaw ซึ่งมีชื่อยู่ในบัญชีดำของรัฐบาลสหรัฐ
นาย Jose Fernandez ผช.รมต.ว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฝ่ายเศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวในการประชุมว่า พม่ากำลังมีความก้าวหน้าในการสร้างสัมพันธ์ทางการเงินและศก.กับประชาคมโลก และสหรัฐยินดีเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาศก.ทั้งในแนวกว้างและแนวลึกในพม่า ผช.รมต. Fernandez ยังบอกด้วยว่าการกระชับความสัมพันธ์ทางศก.กับพม่าครั้งนี้คือส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การค้าของสหรัฐในแถบเอเชียโดยรวม ซึ่งรวมถึงการค้ากับจีน อินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในการประชุมครั้งนี้ หอการค้าของทั้งสองประเทศได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจเพื่อเพิ่มความสัมพันธ์ทางการค้าของพม่ากับสหรัฐ โดยผช.รมต. Fernandez บอกว่าบริษัทสหรัฐจะช่วยให้ธุรกิจในพม่ามีมาตรฐานตามอย่างสากลทั้งในด้านของความโปร่งใส สิทธิแรงงาน สิ่งแวดล้อมและการใช้ที่ดิน นอกจากนี้ยังจะช่วยสร้างงาน พัฒนาคุณภาพชีวิตชาวพม่า และช่วยให้พม่าพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน
ในขณะเดียวกัน ผช.รมต.Fernandez เตือนว่าแม้มาตรการลงโทษทางศก.ของสหรัฐที่มีต่อพม่าได้รับการผ่อนคลายบางส่วน แต่ก็สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้เช่นกัน หากรัฐบาลพม่าไม่ดำเนินการปฏิรูปประเทศอย่างที่ให้สัญญาไว้ ซึ่งเรื่องนี้ยังคงสร้างความหนักใจให้กับบางบริษัทที่ต้องการขยายการลงทุนในพม่า
นาย Darren Brooks ที่ปรึกษาของบริษัทผลิตเครื่องจักรรายใหญ่ Caterpillar กล่าวกับ VOA ว่า ตนยังคงกังวลกับข้อจำกัดของการลงทุนในพม่า เพราะแม้ว่าจะมีการผ่อนคลายมาตรการลงโทษชั่วคราว แต่ก็มิได้หมายความว่าสามารถทุ่มเม็ดเงินลงทุนมหาศาลในพม่าได้ เนื่องจากมาตรการลงโทษอาจถูกนำกลับมาใช้ได้ทุกเวลา
ทางด้านนาย U Win Aung ประธานสหภาพแห่งสมาพันธ์หอการค้าและอุตสาหกรรมพม่า เชื่อว่าการที่สหรัฐและประเทศอื่นๆยกเลิกมาตรการลงโทษต่อพม่าอย่างถาวรนั้น จะมีความสำคัญยิ่งยวดต่อศก.พม่าในอนาคตโดยนาย U Win Aung ระบุว่าการยกเลิกมาตรการลงโทษพม่าทั้งหมดจะช่วยให้นักลงทุนกล้าเข้ามาลงทุนในพม่ามากขึ้น โดยไม่ต้องกังวลต่อศก.ยุคใหม่ของพม่า
และเพื่อให้การลงทุนในพม่ามีความราบรื่น เมื่อเร็วๆนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศยกเลิกข้อจำกัดบางอย่างต่อธนาคารใหญ่ที่สุด 4 แห่งของพม่า ซึ่งอนุญาตให้พลเมืองหรือบริษัทอเมริกันสามารถทำธุรกรรมกับธนาคารทั้ง 4 แห่งนั้นได้ รวมถึงธนาคาร 2 แห่งที่ควบคุมโดย 2 นักธุรกิจชาวพม่าคือนาย Tay Za และนาย Zaw Zaw ซึ่งมีชื่อยู่ในบัญชีดำของรัฐบาลสหรัฐ
