องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติกล่าวว่า การที่ราคาอาหารต่างๆในเอเชียแพงขึ้นทำให้คนจนเดือดร้อน แต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นวิกฤติการณ์

องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติกล่าวว่าราคาอาหารต่างๆในเอเชียแพงขึ้นทำให้คนยากจนเดือดร้อนโดยราคาของข้าวสารซึ่งเป็นอาหารที่ทรงความสำคัญทางเอเชียสูงขึ้น 33% ในบังคลาเทศและที่เมืองจีนสูงขึ้น 23% แต่ผู้ผลิตข้าวรายใหญ่คือประเทศไทยและเวียดนามนั้นการเก็บเกี่ยวข้าวได้ผลดีและคาดว่าจะทำให้ราคาข้าวโดยรวมคงตัว แต่องค์การอาหารและเกษตรกล่าวว่า ถ้าราคาของน้ำมันยังคงสูงขึ้นต่อไป ราคาอาหารในเอเชียก็จะแพงตามไปด้วย รายงานกล่าวว่าพม่าซึ่งมิได้เป็นผู้ผลิตข้าวรายใหญ่หยุดการส่งออกข้าวโดยสิ้นเชิงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่าราคาข้าวอาจสูงขึ้นในขณะที่ค่าขนส่งสูงขึ้น การที่อาหารทางเอเชียแพงขึ้นกระทบกระเทือนคนยากจนเป็นส่วนใหญ่เพราะคนเหล่านั้นยากจนเหลือเกินและต้องเอารายได้ของพวกเขาระหว่าง 50% ถึง 70% ไปซื้ออาหารนั่นเอง ถ้าราคาอาหารแพงขึ้น 30% ถึง 40% อำนาจการซื้ออาหารของพวกเขาจะลดลงและผลที่เกิดตามมาก็คือภาวะอดหยากเรื้อรัง