ลิ้งค์เชื่อมต่อ

วิเคราะห์: กำไรธนาคารอินเดีย-อินโดฯ ดูสดใส เมื่อทิศทางดอกเบี้ยโลกเปลี่ยน


นครมุมไบประเทศอินเดีย
นครมุมไบประเทศอินเดีย

ในขณะที่ธนาคารทั่วโลกปรับตัวกับดอกเบี้ยที่อาจกำลังเข้าสู่จุดสูงสุด นักลงทุนต่างวิเคราะห์อนาคตของธนาคารในเอเชียและจำนวนมากพบว่าผู้ประกอบการในธุรกิจนี้ของประเทศอินเดียและอินโดนีเซียน่าจะให้ผลตอบเเทนที่ดีในปีหน้า

รอยเตอร์รายงานว่าอนาคตที่สดใสของธนาคารในสองประเทศดังกล่าวมีสาเหตุมาจากคุณภาพของสินเชื่อโดยรวม และความสามารถในการทำกำไรที่ดูดี

ทิศทางดอกเบี้ยในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา อยู่ในช่วงขาขึ้น โดยมีธนาคารกลางของสหรัฐฯ หรือ เฟด เป็นเเนวหน้าในการใช้นโยบายดอกเบี้ยดังกล่าว เพื่อรับมือกับเงินเฟ้อที่สูง แต่ในปัจจุบันกระเเสขึ้นดอกเบี้ยแผ่วลงไปแล้ว

รอยเตอร์รายงานปัจจัยเหล่านี้น่าจะทำให้ธนาคารในเอเชียมีรายได้จากดอกเบี้ยดีขึ้น ขณะที่ยังคงมีฐานสินเชื่อที่เติบโตต่อไป

ดัชนีแต่ละดัชนีที่สะท้อนหุ้นธนาคารในอินเดีย อินโดนีเซียและไทย ต่างให้ผลตอบเเทนที่ดีกว่าดัชนีหุ้นเอเชียโดยรวมที่ไม่นับญี่ปุ่น หรือ MSCI Asia ex-Japan และ ดัชนี S&P banks index ของภาคธนาคารในสหรัฐฯ ตั้งเเต่เดือนีนาคมปีที่เเล้ว ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการขึ้นดอกเบี้ยโดยเฟด

เมื่อกระเเสการขึ้นดอกเบี้ยทีละหลายเปอร์เซ็นต์ลดความเข้มข้นลงและภาพของภาวะเศรษฐกิจถดถอยชัดขึ้น นักลงทุนพยายามเลือกหุ้นธนาคารมากขึ้น โดยเน้นไปที่กิจการที่มีต้นทุนการเงินต่ำและมีศัยภาพในการปล่อยกู้ที่ดี

เฟรเดอริก นิวเเมน หัวหน้านักวิเคราะห์เศรษฐกิจของ HSBC กล่าวว่า “สถานการณ์น่าจะเป็นประโยชน์ต่อภาคการเงินในเอเชียโดยรวม เพราะช่วยให้เกิดการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น”

เขากล่าวว่า ที่อินเดีย ธนาคารสามารถสร้างการเติบโตของสินเชื่อในระดับสองหลัก หรืออย่างน้อย 10% ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยปัจจัยผลักดันมาจากความต้องการกู้เงินของคนในประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก และคนอินเดียจำนวนอีกมากยังสามารถเป็นลูกค้าของระบบธนาคารได้

บริษัท LSEG ประเมินว่าการเติบโตของสินเชื่อของธนาคารในเอเชีย ในปีหน้าน่าจะอยู่ที่ 10% เร่งเครื่องจาก 4.5% ปีนี้

ในปีหน้าการขยายตัวของสินเชื่อในอินเดียและอินโดนีเซียน่าจะอยู่ที่ 15% และ 11% ตามลำดับ ตามข้อมูลของ LSEG

นักวิเคราะห์จากธนาคาร J.P. Morgan ระบุว่า ธนาคารในเอเชีย ไม่รวมในประเทศจีน เป็นตัวหนุนหลักของความต้องการเงินกู้โดยรวมของโลก และธนาคารในกลุ่มนี้มีส่วนต่างดอกเบี้ยอยู่ที่ 2.4% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับเดียวกับช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 แล้ว

ผู้บริหารกองทุนหุ้นเอเชียของบริษัท abrdn ที่อังกฤษ ซิน-เยา อึ๊ง กล่าวเช่นกันว่าการลงทุนในธนาคารของอินเดียและอินโดนีเซียดูน่าสนใจ

นอกจากนั้นข้อมูลของบริษัท LSEG ชี้ว่ากำไรของธนาคารในอินเดียและอินโดนีเซียน่าจะเติบโต 13% และ 11% ตามลำดับ เทียบกับค่าเฉลี่ย 6% ของธนาคารโดยรวมในเอเชียแปซิฟิก

  • ที่มา: รอยเตอร์

กระดานความเห็น

XS
SM
MD
LG