ลิ้งค์เชื่อมต่อ

สิบปีหลังเหตุการณ์ 11 กันยายนความเชื่อใน Conspiracy Theories ว่าอัลไคด้าไม่ได้เป็นผู้ก่อยังมีอยู่


สิบปีหลังเหตุการณ์ 11 กันยายนความเชื่อใน Conspiracy Theories ว่าอัลไคด้าไม่ได้เป็นผู้ก่อยังมีอยู่
สิบปีหลังเหตุการณ์ 11 กันยายนความเชื่อใน Conspiracy Theories ว่าอัลไคด้าไม่ได้เป็นผู้ก่อยังมีอยู่

สิบปีหลังการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2544 ขณะนี้ความเชื่อใน Conspiracy Theories หรือทฤษฎีการสมรู้ร่วมคิด ว่ากลุ่มก่อการร้ายอัลไคด้าไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบในเหตุการณ์ครั้งนั้นยังมีอยู่ทั่วไป ถึงแม้ว่านายโอซาม่า บินลาเดน อดีตผู้นำกลุ่มดังกล่าวจะเคยยอมรับความรับผิดชอบในเรื่องนี้ไปแล้วก็ตาม และความเชื่ออย่างแพร่หลายที่สุดในทฤษฎีเกี่ยวกับการสมรู้ร่วมคิดนี้ก็คือ สหรัฐฯ เป็นผู้วางแผนโจมตีตัวเอง หรืออิสราเอลอยู่เบื้องหลังการโจมตีที่ว่านี้เพื่อป้ายความผิดให้กับชาวมุสลิม

นาย Stephen Kull ผู้อำนวยการของ Program on International Policy Attitudes ซึ่งทำการสำรวจความคิดเห็นของผู้คนใน 21 ประเทศเมื่อปี 2008 อธิบายว่า ทัศนคติในทางลบที่มีต่ออเมริกามีความเกี่ยวพันกับความเชื่อใน Conspiracy Theories นี้ เพราะผู้คนที่มีทัศนคติในทางลบต่อสหรัฐฯ มากมักจะไม่เชื่อว่าอัลไคด้าเป็นผู้ก่อเหตุการณ์ขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากสงครามในอิรัคเมื่อปี 2008 ซึ่งทำให้ทัศนคติของชาวโลกมุสลิมต่อสหรัฐฯ เป็นไปในทางลบมากขึ้น แต่นาย Ishtiaq Ahmad ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศชาวปากีสถานได้ชี้ว่า ทัศนคติในทางลบนี้ไม่ได้มาจากนโยบายของสหรัฐฯ เสมอไป เพราะผู้นำในบางประเทศที่การบริหารงานล้มเหลว เช่นปากีสถาน อียิปต์ และซาอุดิอารเบียมักพยายามเบี่ยงเบนความไม่พอใจในประเทศนี้นี้โดยกล่าวโทษประเทศอื่น เช่นสหรัฐฯ เป็นต้น อย่างไรก็ตามนาย Ishtiaq Ahmad หวังว่าการถอนทหารสหรัฐฯ ออกจากอาฟกานิสถานและการลดบทบาทของสหรัฐฯ ในประเทศมุสลิมบางประเทศลง รวมทั้งการค้าและความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ อาจช่วยเปลี่ยนทัศนคติในทางลบนี้ และอาจทำให้ทฤษฎีเกี่ยวกับการสมรู้ร่วมคิดดังกล่าวจางหายไปได้ในที่สุด

XS
SM
MD
LG