การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ที่ประเทศแอฟริกาใต้กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว โดยพิธีเปิดการแข่งขันจะมีขึ้นในวันที่ 11 มิถุนายนนี้
อย่างไรก็ตาม กำลังมีความกังวลเพิ่มขึ้นว่า การแข่งขันกีฬารายการใหญ่ของโลกครั้งนี้จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส HIV/AIDS ในอาฟริกาใต้มากยิ่งขึ้น จึงมีโครงการต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย เพื่อรณรงค์ป้องกันความเสี่ยงของการติดเชื้อไวรัส HIV/AIDS ที่ว่านี้
เวลานี้ทั้งชาวอาฟริกาใต้และผู้คนทั่วโลก ต่างกำลังใจจดใจจ่อรอชมการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่อาฟริกาใต้ ซึ่งจะเริ่มขึ้นในอีกไม่ถึง 2 สัปดาห์นี้แล้ว บรรยากาศความตื่นเต้นปรากฎให้เห็นชัดเจนทั่วไปในอาฟริกาใต้ อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าจะมีแต่ความตื่นเต้นสนุกสนานอย่างเดียว เพราะอีกด้านหนึ่งกำลังมีความกังวลว่า ฟุตบอลโลกครั้งแรกของทวีปอาฟริกานี้จะนำพาแขกที่ไม่น่าพึงประสงค์มาด้วย
ทั้งอาชญากรรมและการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส HIV/AIDS ในช่วงที่มีนักท่องเที่ยวมากมาย คือสิ่งที่หลายฝ่ายกังวล ไม่นานนี้ รัฐบาลอาฟริกาใต้เริ่มการรณรงค์ครั้งใหญ่ เพื่อตรวจเลือดประชาชนราว 15 ล้านคนว่ามีเชื้อ HIV หรือไม่ และการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้จะเป็นการเริ่มต้นโครงการแจกถุงยางอนามัย 1 พันล้านชิ้นในอาฟริกาใต้ในช่วง 6 เดือนข้างหน้าด้วย
ประชากรอาฟริกาใต้นั้นมีอยู่ไม่ถึง 1% ของประชากรโลก แต่กลับมีผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS ราว 17% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดทั่วโลก คิดเป็นจำนวน 5 ล้าน 7 แสนคน โดยการเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ และการไม่ใช้ถุงยางอนามัยคือ 2 เหตุผลหลักที่เชื่อว่าทำให้มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก
คุณ Yogan Pillay รักษาการผู้อำนวยการการสาธารณสุขแห่งชาติอาฟริกาใต้ ซึ่งดูแลควบคุมเรื่องการระบาดของเชื้อ HIV/AIDS ระบุว่า โครงการสำคัญอย่างหนึ่งของรัฐบาลคือการให้ความรู้แก่ประชาชนว่าไม่ควรตราหน้า หรือประณามผู้ติดเชื้อเอชไอวี และไม่มีเหตุผลที่ต้องหวาดกลัวผู้ติดเชื้อดังกล่าวแต่อย่างใด
ทางด้านคุณ Thulaganyo Gao Shubelwe อดีตนักฟุตบอลที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการใหญ่สหภาพนักฟุตบอลอาฟริกาใต้ ชี้ว่า บรรดานักฟุตบอลชื่อดังของโลกต่างสามารถช่วยในโครงการป้องกันโรคเอดส์ได้ด้วย
คุณ Shubelwe กล่าวว่า สิ่งที่ต้องการไม่ใช่โปสเตอร์รูปนักฟุตบอลพร้อมคำเตือนถึงอันตรายของโรคเอดส์ แต่ต้องการใช้ประโยชน์จากชื่อเสียงของนักฟุตบอลเหล่านั้น โดยให้พวกเขาออกมาพูดหรือรณรงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงของโรคเอดส์มากกว่า เช่น การจัดแสดงละครใบ้โดยนักฟุตบอลทั้งในอดีตและปัจจุบัน ซึ่งผู้ที่ต้องการเข้าชมต้องผ่านการต่อคิวตรวจเลือดเสียก่อน คุณ Ronny Zondi หนึ่งในนักฟุตบอลที่เข้าร่วมโครงการเชื่อว่า ฟุตบอลโลกครั้งนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มประชาชนโดยเฉพาะผู้ติดเชื้อเอชไอวีได้มากยิ่งขึ้น
ก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายจะเริ่มขึ้นในเร็ววันนี้ ทางรัฐบาลอาฟริกาใต้ให้สัญญาว่าจะพยายามควบคุมความเสี่ยงต่างๆ ทั้งอาชญากรรม การลักลอบค้ามนุษย์ การล่วงละเมิดทางเพศ และการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส HIV/AIDS ให้ได้ และที่สำคัญจะต้องไม่กระทบกระเทือนบรรยากาศความสนุกสนาน และ World Cup Fever ในอาฟริกาใต้ อย่างแน่นอน
