เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะนักวิทยาศาสตร์นานาชาติที่ประชุมกันที่กรุงโรม ประกาศโครงการวิจัยใหม่ในเรื่องศักยภาพของการนำ Stem Cell หรือ เซลพื้นฐาน ของผู้ใหญ่มาใช้ในการบำบัดรักษา
คณะนักวิทยาศาสตร์และแพทย์นานาชาติ ที่ทำงานวิจัยที่สำนักวาติกันให้ทุนสนับสนุน เสร็จสิ้นการประชุมเชิงปฏิบัติงาน ที่สถาบันสุขภาพแห่งชาติของอิตาลีที่กรุงโรมเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว และประกาศว่า ต้องการจะประเมินศักยภาพของการนำ Stem Cell หรือ เซลพื้นฐานของลำไส้คนในวัยผู้ใหญ่มาใช้ ในการบำบัดรักษา ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นการวิจัยในแง่มุมใหม่
นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Maryland ในสหรัฐ จะเป็นผู้นำโครงการศึกษาวิจัย ซึ่งได้รับทุน 2,700,000 ดอลลาร์จากสำนักวาติกันโครงการนี้
ศาสตราจารย์ Curt Civin ผู้อำนวยการศูนย์ความร่วมมืองานวิจัยระหว่างประเทศ ที่มหาวิทยาลัย Maryland กล่าวว่า งานวิจัยซึ่งนานาชาติร่วมมือกันนี้ เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้รับความสนับสนุนให้ทุนจากสำนักวาติกัน
พระคาร์ดินาล Renato Martino ซึ่งเข้าร่วมการประชุมด้วยกล่าวว่า ทางสำนักวาติกันสนับสนุนงานนี้อย่างเต็มที่ เพราะเห็นว่าเป็นงานวิจัยที่ไม่กี่ยวข้องกับการใช้ Stem Cell ตัวอ่อนมนุษย์ สำนักวาติกันคัดค้านการทำงานวิจัย Stem Cell ตัวอ่อนมนุษย์มานานแล้ว เพราะเห็นว่าเท่ากับเป็นการคร่าชีวิตมนุษย์
นายแพทย์ Ruggera De Maria แห่งสถาบันสุขภาพแห่งชาติของอิตาลี และ ศาสตราจารย์ Curt Civin กล่าวว่า Stem Cell หรือ เซลพื้นฐานของลำไส้นั้นมีศักยภาพสูง โดยธรรมชาติที่จะนำมาใช้ในการบำบัดรักษาได้
ศาสตราจารย์ Curt Civin อธิบายว่า Stem Cell ของลำไส้นั้น เป็น Stem Cell ชนิดที่กลับฟื้นคืนสภาพได้อย่างสม่ำเสมอ ตลอดชีวิตคนเรา แม้จะอยู่ในวัยผู้ใหญ่แล้วก็ตาม โดยที่สร้างเซลในลำไส้ขึ้นมาทดแทนกันได้ทุกครั้งที่เรากลืนอาหาร
อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า Stem Cell ของผู้ใหญ่มีความสามารถปรับเปลี่ยนน้อยกว่า Stem Cell ตัวอ่อน และนักวิทยาศาสตร์ความยากลำบากกว่าในการปลูก Stem Cell ผู้ใหญ่ในห้องทดลอง
ศาสนาโรมันคาธอลิคคัดค้านการวิจัย Stem Cell ตัวอ่อนมนุษย์ เพราะในกระบวนการนั้น ตัวอ่อนจะถูกทำลายไป แต่สนับสนุนการใช้ Stem Cell ของคนวัยผู้ใหญ่ในงานวิจัย
