ในวันจันทร์ เจ้าหน้าที่อเมริกันเกือบสองร้อยคน จะเริ่มการเจรจากับเจ้าหน้าที่ระดับเดียวกันของฝ่ายจีนที่กรุงปักกิ่ง อันเป็นการเจรจาเกี่ยวกับความมั่นคง และเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐและจีนรอบที่สอง
การประชุมประจำปีที่ว่านี้ มีจุดมุ่งหมายจะเพิ่มพูนการประสานงานด้านนโยบาย เกี่ยวกับความมั่นคงและเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐและจีน ระหว่างการเจรจากันในปีนี้ นักวิเคราะห์ฝ่ายจีนกล่าวว่า ความวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่ความตึงเครียด ในคาบสมุทรเกาหลีทวีขึ้นจะเป็นหัวข้อสำคัญของการเจรจา และอาจเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความคิดเห็นไม่ลงรอยกันได้
เจ้าหน้าที่อเมริกันกล่าวว่า การไปเมืองจีนครั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอเมริกัน ฮิลลารี คลิ้นตัน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอเมริกัน ทิโมธี ไกต์เนอร์นำคณะเจ้าหน้าที่อเมริกันระดับรัฐมนตรีและระดับรองๆ ลงมาจากทุกหน่วยงาน รวมทั้งเจ้าหน้าที่คนสำคัญๆของกระทรวงกลาโหมอเมริกัน และของกองบัญชาการภาคพื้นแปซิฟิกด้วย
การเจรจาในวันจันทร์และวันอังคารนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอเมริกันคลิ้นตัน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอเมริกัน ทิโมธี ไกต์เนอร์จะทำหน้าที่เป็นประธานร่วมกับฝ่ายจีนคือ นายได๋ บิ๋งกั้วะ สมาชิกสภาที่ปรึกษาแห่งรัฐและรองนายกรัฐมนตรี หวาง ฉีช้าน
ระหว่างการประชุมวาระต่างๆ สหรัฐและจีนจะแลกเปลี่ยนทัศนะเกี่ยวกับประเด็นปัญหาทางการเมืองและเศรษฐกิจกัน ซึ่งเมื่อปีที่แล้วเรื่องดังกล่าว ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสองแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นหลายครั้ง
นักวิเคราะห์ฝ่ายจีนกล่าวว่า การประชุมที่ว่านี้จะเปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายถกกัน เกี่ยวกับวิธีการที่ประเทศซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด และที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลกจะช่วยให้เศรษฐกิจโลกทรงเสถียรภาพและช่วยยุโรป ซึ่งกำลังเผชิญวิกฤติการณ์ทางการเงินอยู่
ศาสตราจารย์ ชื้อ ยิ๋นหอง ผู้สอนวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่มหาวิทยาลัยเหรินหมินในกรุงปักกิ่งกล่าวว่า เรื่องที่เกาหลีใต้กล่าวหาว่า เกาหลีเหนือจมเรือรบของตนเมื่อเดือนมีนาคม ทำให้ทหารเรือเสียชีวิตไป 46 นายจะเป็นหัวข้อการเจรจาหารือที่สำคัญเรื่องหนึ่ง
ท่านอาจารย์กล่าวไว้ตอนนี้ว่า “จุดยืนของจีนยังห่างจากของเกาหลีใต้ และของสหรัฐมาก ดังนั้น ผมคิดว่าเรื่องเกาหลีเหนือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด รีบด่วนที่สุดและเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกันมากที่สุด”
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอเมริกันคลิ้นตันกล่าวว่า สหรัฐกำลังดำเนินการร่วมกับญี่ปุ่น จีนและเกาหลีใต้เพื่อตัดสินใจว่า นานาประเทศควรตอบโต้เหตุการณ์ดังกล่าวอย่างไร?
จีนเป็นพันธมิตร และเป็นประเทศที่ให้ความสนับสนุนทางการเงิน รายที่สำคัญที่สุดของเกาหลีเหนือ จนถึงบัดนี้ จีนยังคงวางตัวเป็นกลาง เกี่ยวกับข้อสรุปของเกาหลีใต้และเร่งเร้าให้เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ใช้ความยับยั้งชั่งใจ ศาสตราจารย์ ชื้อ หยินหองแห่งมหาวิทยาลัยเหรินหมินกล่าวว่าจีนอาจยินยอมผ่อนปรนให้บ้างเล็กน้อย และยอมให้นำประเด็นปัญหาดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่ว่ารัฐมนตรีต่างประเทศคลิ้นตันจะผลักดันอย่างแข็งขันแค่ไหน แต่ท่านอาจารย์คิดว่าเรื่องคงจะไม่ไปไกลมากกว่านั้น
ส่วนศาสตราจารย์ หลิน ชองปิ้น ผู้สอนวิชายุทธศาสตร์คดีศึกษาที่มหาวิทยาลัยตัมกาง ที่ใต้หวันแสดงความคิดเห็นว่า จีนกำลังปลีกตัวจากเกาหลี
เหนือไปทีละน้อย นับตั้งแต่เกาหลีเหนือทดลองอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่สอง เมื่อปีพุทธศักราช 2549
ท่านอาจารย์กล่าวไว้ตอนนี้ว่า “จีนพบแล้วว่าการสนับสนุนเกาหลีเหนือ อย่างที่เคยทำมาแล้วในอดีตขัดกับผลประโยชน์แห่งชาติของจีน จีนกำลังลดความสนับสนุนจากที่เคยให้อย่างมากนั้นลงมาสู่ขั้นการวางตนเป็นกลาง”
ท่านอาจารย์กล่าวด้วยว่า หลังจากเกิดการจมเรือรบเกาหลีใต้แล้ว จีนเห็นว่าการส่งเสริมความมั่นคงปลอดภัยของภูมิภาคสำคัญสำหรับจีน มากกว่าเรื่องความสนับสนุนที่จีนเคยให้เกาหลีเหนือในอดีต
นอกจากปัญหาน่ากังวลเกี่ยวกับเกาหลีเหนือแล้ว คาดว่าเจ้าหน้าที่อเมริกันจะยกเรื่องนโยบายเกี่ยวกับการลงทุนในจีน ซึ่งทำให้บริษัทอเมริกันแข่งขันได้ยากและ เรื่องค่าของเงินหยวน ขึ้นมาพูดจากัน คาดว่าจีนจะชูประเด็นเรื่องการควบคุมการส่งออกของสหรัฐ ซึ่งจำกัดการที่จีนจะนำเข้าสินค้าไฮเทคและคงจะเตือนสหรัฐ ให้พึงสังวรณ์เกี่ยวกับความกังวลของจีนในเรื่องหนี้สินของสหรัฐในการเจรจา
ส่วนศาสตราจารย์ เดวิด แชมบอ ผู้ทรงคุณวุฒิเกี่ยวกับจีนที่มหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตันในกรุงวอชิงตันกล่าวไว้ตอนนี้ว่า “อย่าคาดหวังว่าการประชุมดังกล่าว จะได้ผลออกมาเป็นเนื้อเป็นหนัง เพราะนั่นไม่ใช่เจตนารมณ์ของการประชุม เจตนารมณ์อยู่ที่ว่าต้องให้เป็นที่สำหรับการเจรจาพาทีระหว่างทางราชการอย่างกว้างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงอุปสรรคของการไต่ไปหายอดของระบบราชการของทั้งสองฝ่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน”
ศาสตราจารย์ เดวิด แชมบอ เชื่อมั่นว่า การประชุมเหล่านั้นยังคงเป็นเรื่องสำคัญ แต่ตั้งข้อสัเกตว่าการทำให้การประชุมประจำปีได้ผลดีขึ้นนั้น จะต้องมีการตั้งกลุ่มทำงานเพื่อติดตามเรื่องเพื่อทำให้การเจรจาเรื่องความมั่นคงและเศรษฐกิจ เป็นกิจกรรมที่ไม่ได้ยุติลงภายในสองวัน แต่ดำเนินไปตลอดทั้งปีเลย