ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ผู้เชี่ยวชาญเร่งเร้ารัฐบาลประเทศต่างๆ หยุดยั้งแนวโน้มที่การติดเชื้อไวรัสเอชไอวีกำลังทวีขึ้น


ผู้เชี่ยวชาญเร่งเร้ารัฐบาลประเทศต่างๆ หยุดยั้งแนวโน้มที่การติดเชื้อไวรัสเอชไอวีกำลังทวีขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญเร่งเร้ารัฐบาลประเทศต่างๆ หยุดยั้งแนวโน้มที่การติดเชื้อไวรัสเอชไอวีกำลังทวีขึ้น

กฎหมายซึ่งมีบทลงโทษการลักลอบค้ายาเสพติด และและการเสพยาเสพติดอย่างหนักนั้นอาจทำให้การติดเชื้อไวรัสเอชไอวีในหมู่ผู้ที่เสพยาเสพติดเพิ่มขึ้น

บรรดาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในเอเชียกล่าวว่า กฎหมายซึ่งมีบทลงโทษการลักลอบค้ายาเสพติดและและการเสพยาเสพติดอย่างหนักนั้นอาจทำให้การติดเชื้อไวรัสเอชไอวีในหมู่ผู้ที่เสพยาเสพติดเพิ่มขึ้น

ผู้สื่อข่าว วอยซ ออฟ อเมริกา Ron Corben รายงานจากกรุงเทพมหานครว่า ขณะนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพกำลังเร่งเร้ารัฐบาลของประเทศต่างๆ ให้ใช้กลยุทธ์ที่เรียกกันว่าการลดภัยอันตรายมาใช้ในการแก้ไขปัญหาการใช้ยาเสพติดในทางที่ผิด และหยุดยั้งแนวโน้มที่การติดเชื้อไวรัสเอชไอวีกำลังทวีขึ้น

ประเทศในเอเชียหลายแห่งมีบทลงโทษการลักลอบขน และค้ายาที่มีฝิ่นเจือปนอย่างเช่นเฮโรอีนและยากระตุ้นจิตประสาทจำพวกแอมเฟทตะมีนนั้นไว้อย่างหนัก รวมถึงโทษประหารชีวิต จำนวนผู้ที่ติดคุกในเอเชียมีจำนวนเพิ่มขึ้น อันเป็นผลเนื่องมาจากการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ในประเทศไทยนั้น จำนวนผู้ที่ติดคุกสูงขึ้นสองเท่า ระหว่างปีพุทธศักราช 2539 ถึงปีพุทธศักราช 2547 ทั้งนี้เพราะในปีพุทธศักราช 2539 การค้าและการเสพยากระตุ้นจิตประสาทเมธเเธมเฟทตะมีน ถือว่าเป็นความผิดทางอาญา

คุณ ตัน สมิตส กรรมการบริหารของข่ายงานการลดภัยอันตรายแห่งเอเชีย ซึ่งตั้งมีสำนักงานอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที่กล่าวว่า การลงโทษอย่างหนักแบบนั้นอาจมีส่วนทำให้เชื้อไวรัสเอชไอวีแพร่กระจายออกไป เขากล่าวว่าการปราบยาเสพติดของไทยที่เริ่มทำตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2546 ทำให้เกิดบรรยากาศแห่งความกลัว และจำเป็นจะต้องใช้วิธีการใหม่

คุณตัน สมิตส กล่าวไว้ตอนนี้ว่า “ตราบใดที่เรายังยึดจุดยืนแบบไม่มีการอดกลั้น การจะประสบความคืบหน้าทำได้ยาก ไม่ใช่มีประเทศไทยรายเดียว รัฐบาลของทุกประเทศในภูมิภาคที่กำลังดิ้นรนขวนขวายที่จะยอมรับนโยบาย เรื่องที่ท้าทายอยู่ก็คือ เมื่อเห็นพ้องว่าจำเป็นจะต้องแก้ไขและมีการลงมือแก้ไข แต่เรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆก็คือมีการดำเนินการน้อย ช้าและสายเกินไป”

การศึกษาโดยข่ายงานลดภัยอันตรายแห่งเอเชีย ซึ่งกองทุนโลกเพื่อต่อต้านเอดส์ วัณโรคและไข้จับสั่นออกทุนให้พบว่า ขณะที่การเสพเฮโรอีนลดลง การใช้ยากระตุ้นจิตประสาทจำพวกแอมเฟทตะมีนกลับทวีขึ้น ซึ่งรวมถึงการฉีดยาดังกล่าวแทนเฮโรอีน

ในประเทศไทยนั้นมีผู้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีราวหกแสนคน และในกลุ่มดังกล่าวผู้ซึ่งฉีดยาเข้าเส้นเลือดนั้นสามสิบถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี

เจ้าหน้าที่ฝ่ายสาธารณสุข และกลุ่มที่มิใช่ภาครัฐเร่งรัดรัฐบาลของประเทศต่างๆ ให้เปลี่ยนมาใช้กลยุทธ์ลดภัยอันตรายรวมทั้งการแลกเปลี่ยนเข็มฉีดยา และโครงการใช้ยาเมธาโดนแทนการเสพเฮโรอีน เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสเอชไอวี รัฐบาลไทยกำลังเคลื่อนไหวที่จะนำกลยุทธ์ลดภัยอันตรายมาใช้ในการแก้ปัญหายาเสพติด ดร. นิโคลาส ทอมป์สันแห่งคณะสาธารณสุขศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอพกินส์ กล่าวว่า ออสเตรเลียใช้นโยบายการลดภัยอันตรายซึ่งได้ผลดีโดยลดจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ในหมู่ผู้ที่ฉีดยาเข้าเส้นเลือดลงเหลือไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ เขากล่าวว่าการส่งเสริมให้มีการติดต่อกับกลุ่มที่สำคัญๆ ในสังคมรวมทั้งฝ่ายตุลาการและตำรวจเป็นกุญแจดอกสำคัญในการช่วยให้นโยบายการลดภัยอันตรายทำงานได้ผล เขากล่าวด้วยว่าข้อเท็จจริงที่ว่าประเทศไทยไม่สามารถลดอัตราผู้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ในหมู่ผู้ที่ฉีดยาเสพติดเข้าเส้นเลือดนั้นบ่งชี้ว่าประเทศไทยจะต้องใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างออกไป จากที่ใช้อยู่แต่เดิม

XS
SM
MD
LG