ลิ้งค์เชื่อมต่อ

องค์การอนามัยโลกชี้ว่ามีกลุ่มผู้ติดเชื้อหลายกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงยาต้านไวรัสเอดส์ได้


องค์การอนามัยโลกเปิดเผยว่าจำเป็นต้องมียุทธศาสตร์ในการรักษาโรคเอดส์ที่ครอบคลุมคนทุกกลุ่มในประเทศกำลังพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาการรังเกียจจากคนสังคม

การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับโรคเอดส์หลายๆชิ้นพบว่า ยาต้านไวรัสเอดส์ นอกจากจะช่วยยืดชีวิตผู้ป่วยเอดส์แล้ว ยังช่วยลดการติดเชื้อได้ด้วย นี่เป็นยุทธวิธีที่เรียกว่า การรักษาที่ช่วยป้องกันโรค นี่หมายความว่า หลายๆชาติสามารถลดอัตราการแพร่ระบาดของเชื้อเอดส์ด้วยการใช้ยาต้านไวรัสเพื่อป้องกันการติดเชื้อได้ด้วย

อย่างไรก็ตาม บ่อยครั้งที่ผู้ป่วยเอดส์ ที่ต้องการยารักษา ไม่ได้รับยาต้านไวรัสเพราะสถานทางสังคม

ด็อกเตอร์ Gottfried Hirnschall ผู้อำนวยการของฝ่ายเอชไอวีเอดส์แห่งองค์การอนามัยโลก (WHO’s HIV/AIDS Department) กล่าวว่า ในหลายๆประเทศ พบว่ายังมีการรังเกียจและกีดกันทางสังคมเกิดขึ้นต่อประชากรบางกลุ่ม ในชาติอาฟริกาหลายชาติ อาชีพโสเภณีถือว่าเป็นอาชีพผิดกฏหมาย เป็นอาชญากรรม และชายรักเพศเดียวกันในหลายประเทศก็ตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับกลุ่มผู้ฉีดยาเสพติดเข้าทางเส้นเลือด

องค์การอนามัยโลกและโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ ถือว่า กลุ่มชายรักเพศเดียวกัน ที่เรียกสั้นๆว่า MSM เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ถูกกีดกันทางสังคม ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางสุขภาพ ทำให้คนกลุ่มนี้มีอัตราการติดเชื้อเอดส์สูงกว่ากลุ่มอื่นๆ และมีอัตราการเสียชีวิตที่สูงกว่าด้วย

ยุทธศาสตร์ในการรักษาโรคเอดส์ที่ครอบคลุมคนทุกกลุ่ม นี้รวมถึงประเด็นที่ว่าควรจะเริ่มต้นการรักษาเมื่อใด
ในอดีตที่ผ่านมา ผู้ป่วยเอดส์ได้รับยาต้านไวรัสเมื่อระบบภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอจนถึงจุดที่เริ่มป่วยจากโรคฉวยโอกาสต่างๆ การตัดสินใจให้ผู้ป่วยเริ่มใช้ยาต้านไวรัสขึ้นอยู่กับปริมาณ CD4 ในเลือด ที่ลดลงจนถึงระดับอันตราย ผู้อำนวยการของฝ่ายเอชไอวีเอดส์แห่งองค์การอนามัยโลกกล่าวว่า ในหลายปีที่ผ่านมา วงการแพทย์ได้เริ่มให้ผู้ป่วยเอดส์รับประทานยาต้านไวรัสแต่เนิ่นๆ

เขา กล่าวว่า หากผู้ป่วยเริ่มใช้ยาต้านไวรัสได้เร็วเท่าไหร่ ก็จะมีผลดีเท่านั้น วิธีนี้เริ่มใช้กันในสหรัฐอเมริกาหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงทางนโยบาเขาบอกว่าองค์การอนามัยโลกเองแนะนำว่าผู้ป่วยควรเริ่มใช้ยาต้านไวรัสทันทีที่ระดับปริมาณ CD4 ในเลือดอยู่ที่ 350 ซึ่งเป็นระดับที่ภูมิคุ้มกันในร่างกายเริ่มอ่อนอแลงแต่ผู้ป่วยยังไม่ป่วยหนัก

การศึกษาวิจัยสองชิ้นในเรื่องนี้ได้ยืนยันว่ายารักษาเอดส์สามารถป้องกันการแพร่ระบาดของเอดส์ได้ด้วย การศึกษาชิ้นแรกเป็นการวิจัยคู่ครองที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งติดเชื้อเอดส์ ยาต้านไวรัสมีผลในการลดโอกาสติดเชื้อในคู่ครองฝ่ายที่ยังไม่ติดเชื้อลงถึงเก้าสิบหกเปอร์เซ็นต์

ส่วนการศึกษาวิจัยอีกชิ้นหนึ่ง เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพของยาต้านไวรัสเอดส์ในการช่วยป้องกันการติดเชื้อรายใหม่

ผู้อำนวยการของฝ่ายเอชไอวีเอดส์แห่งองค์การอนามัยโลกกล่าวว่าการให้ยาต้านไวรัสแก่คนทั่วไปที่ยังไม่ติดเชื้อ ก่อนที่มีพฤติกรรมเีสี่ยง มีผลช่วยป้องกันคนเหล่านี้จากการติดเชื้อได้ เจ้าหน้าที่แห่งองค์การอนามัยโลก กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่า การใช้ยาต้านไวรัสแต่เนิ่นๆจะเพิ่มค่าใช้จ่ายมากขึ้นอีกหลายพันล้านดอลล่าร์สหรัฐในระยะสั้น แต่ว่าค่าใช้จ่ายค่ายานี้จะลดลงไปเรื่อยๆในระยะยาวและยังช่วยชีวิตคนไว้ได้มากขึ้นด้วย
XS
SM
MD
LG