ลิ้งค์เชื่อมต่อ

การผ่านร่างรัฐบัญญัติ ปฏิรูปการบริบาลสุขภาพ ชัยชนะครั้งสำคัญของ ปธน.โอบาม่า


การผ่านร่างรัฐบัญญัติ ปฏิรูปการบริบาลสุขภาพ ชัยชนะครั้งสำคัญของ ปธน.โอบาม่า
การผ่านร่างรัฐบัญญัติ ปฏิรูปการบริบาลสุขภาพ ชัยชนะครั้งสำคัญของ ปธน.โอบาม่า

การที่รัฐสภาอเมริกันผ่านร่างรัฐบัญญัติ ปฎิรูปการบริบาลสุขภาพ ที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาเสนอไว้นับว่า เป็นชัยชนะทางการเมืองครั้งที่สำคัญครั้งหนึ่ง ของท่านประธานาธิบดี ประวัติศาสตร์จะต้องจารึกเรื่องรัฐบัญญัติ เกี่ยวกับการปฎิรูปที่ท่านประธานาธิบดี และสมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรคเดโมแครต ช่วยกันผลักดันจนผ่านรัฐสภาได้สำเร็จนี้

แต่เมื่อมองในแง่การเมือง ร่างรัฐบัญญัติที่ว่านี้ นับว่าเป็นการเสี่ยงทางการเมือง และพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นพรรคที่คัดค้านเรื่องนั้นมาตลอด ลั่นวาจาว่าจะแก้เผ็ดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาอเมริกันกลางสมัย ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนปีนี้

ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองหลายคนรวมทั้งอาจารย์รอสส์ เบเกอร์ แห่งมหาวิทยาลัยรัตเกอร์ส ที่รัฐนิวเจอร์ซี่ย์ มองเห็นว่าการที่ร่างรัฐบัญญัติปฎิรูปการบริบาลสุขภาพ ผ่านรัฐสภาแล้วนี้ เป็นเรื่องที่ต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์

ท่านอาจารย์กล่าวว่า “เรื่องนั้นเป็นเรื่องแรก ที่เข้ามาสู่การพิจารณาของมหาชน ในอเมริกาเมื่อหนึ่งร้อยปีมาแล้ว ตอนนั้นประธานาธิบดีเธียวดอร์ รู๊สเวลต์ เป็นผู้เสนอโครงการแห่งชาติ เกี่ยวกับการบริบาลสุขภาพ และประธานาธิบดีคนต่อๆ มา ซึ่งส่วนใหญ่สังกัดพรรคเดโมแครตนั้น สนับสนุนโครงการดังกล่าวเกือบทุกคน”

ส่วนคุณริชาร์ด วุลฟ์ นักวิเคราะห์ทางการเมือง และนักประพันธ์กล่าวว่า ไม่มีข้อที่น่าสงสัยอะไรเลยว่า ขอบข่ายของแผนการปฎิรูปการบริบาลสุขภาพ ที่ประธานาธิบดีบรัค โอบามาเสนอนั้น เป็นเรื่องที่ต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ คุณริชาร์ด วุลฟ์ กล่าวต่อไปว่า “ร่างรัฐบัญญัติดังกล่าว มีขอบข่ายกว้างขวาง และเป็นชัยชนะที่เด็ดขาด ร่างรัฐบัญญัติอาจไม่ได้คลุมทุกสิ่งทุกอย่าง ที่ทุกคนหวังไว้ แต่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจอเมริกัน ซึ่งมีขนาดใหญ่มหึมาและกำลังขยายตัว อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่ง ของเรื่องที่พรรคเดโมแครตใฝ่ฝันมาหลายชั่วอายุคนแล้ว”

ถึงแม้ร่างรัฐบัญญัตินั้น เป็นเรื่องที่จะต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ แต่ผลของการสำรวจทัศนะของชาวอเมริกันต่างๆ แสดงว่าชาวอเมริกัน ผู้คัดค้านร่างรัฐบัญญัติดังกล่าว มีจำนวนมากกว่าฝ่ายที่สนับสนุน และท่านประธานาธิบดีไม่ได้รับเสียงสนับสนุน ของฝ่ายพรรครีพับลิกันเลย สมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรครีพับลิกัน อย่างเช่นส.ส.อเมริกันไมค์ เพ๊นซแห่งรัฐอินเดียนากล่าวว่า ในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภากลางสมัย ในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามาและ สมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรคเดโมแครต ผู้สนับสนุนท่าน จะต้องโดนประชาชนเล่นงานเอาอย่างสาสมแน่ๆ

นอกจากนี้ การอภิปรายเกี่ยวกับร่างรัฐบัญญัติ ปฎิรูปการบริบาลสุขภาพนี้ ยังเป็นตัวที่กระตุ้นให้ขบวนการที่มีฉายาว่า Tea Party Movement ซึ่งเป็นพวกรากหญ้าหัวอนุรักษ์นิยม ที่เกาะกลุ่มกันอยู่หลวมๆ กล้าแข็งขึ้นมาด้วย แม้ว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมจะพ่ายแพ้ในรัฐสภา แต่ก็ลั่นวาจาว่า จะทำให้สมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรคเดโมแครต ผู้สนับสนุนร่างรัฐบัญญัติฉบับนั้นพ่ายแพ้ให้จงได้ ในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาในเดือนพฤศจิกายนปีนี้

คุณทอม ดีแฟรงค์ ผู้สังเกตการณ์ทางการเมือง ผู้ช่ำชองของหนังสือพิมพ์นิวยอร์ค เดลีนิวส์กล่าวไว้ว่า “ผมคิดว่าสิ่งที่ฝ่ายรีพับลิกันทำลงไป ก็เพราะพวกเขาเชื่อมั่นว่า จะเป็นฝ่ายได้เปรียบทางการเมือง และเห็นชัดว่าในรอบหกถึงเก้าเดือนมานี้ เรื่องเป็นแบบนั้นจริง”

บรรดาผู้เชี่ยวชาญส่วนมากเชื่อมั่นว่า การอภิปรายเกี่ยวกับเรื่องรัฐบัญญัติ ปฎิรูปการบริบาลสุขภาพ ซึ่งดำเนินไปโดยยึดแนวความคิดของพรรค เป็นเกณฑ์นี้มีลู่ทางว่า จะทำให้การดำเนินงานของรัฐสภา เกี่ยวกับประเด็นปัญหาที่สำคัญอื่นๆ อย่างเช่นเรื่องคนเข้าเมือง และเรื่องสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ไม่ประสพความก้าวหน้า




XS
SM
MD
LG