งานวิจัยหลายชิ้นระบุว่า วัยรุ่นมักจะนอนไม่พอ ซึ่งส่งผลกระทบการเรียน และสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจได้
สถาบัน American Academy of Sleep Medicine ซึ่งศึกษาเรื่องการนอนโดยเฉพาะ กล่าวว่า วัยรุ่นต้องนอนให้ได้คืนละ 9 ชั่วโมง แต่ตามความเป็นจริงแล้ว มักจะนอนกันได้อย่างมากไม่เกิน 7 ชั่วโมง บิดามารดาบางคน ถึงกับให้ลูกรับประทานยานอนหลับก็มี แต่งานวิจัยที่เพิ่งเผยแพร่ออกมากล่าวว่า อาจจะมีวิธีที่ช่วยให้วัยรุ่นเหล่านี้ นอนหลับได้โดยไม่ต้องใช้ยา
นักวิจัยเรื่องการนอนของวัยรุ่น คุณ Mariana Figueiro แห่งศูนย์วิจัยสายฟ้าแลบของสถาบัน Rensselaer Polytechnic ในรัฐนิวยอร์ค บอกว่าวัยรุ่นนั้น นอกจากจะนอนดึกแล้ว ตอนเช้าก็ไม่ค่อยจะอยากตื่น
นักวิจัยผู้นี้อธิบายต่อไปว่า งานวิจัยนี้มุ่งจะทำความเข้าใจ ถึงผลกระทบที่แสงสว่าง มีต่อวัฏจักรการนอนของเด็กหนุ่มสาวอย่างไรบ้าง และจะใช้แสงสว่างได้อย่างไร เพื่อช่วยให้เข้านอนได้เร็วขึ้น และตื่นได้อย่างสดชื่นในตอนเช้า
ที่ทีมงานนี้ให้ความสำคัญกับแสง ก็เพราะงานวิจัยก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่า ลักษณะการนอนของคนเรา เริ่มเปลี่ยนเมื่อมีอายุประมาณ 13 ขวบ ในช่วงอายุนั้นนาฬิกาในร่างกาย กลับไปปรับตัวใหม่ ตามแสงสว่างที่ต่างกันไปในแต่ละชั่วโมง และฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงไป และที่สำคัญอีกอันหนึ่งก็คือ แสงสว่างส่งผลกระทบต่อการผลิตสาร melatonin ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้นอนหลับ ร่างกายผลิต melatonin ในตอนกลางวัน
ผลของการวิจัยพบว่า ถ้าให้วัยรุ่นได้สัมผัสกับแสงสว่างในตอนเช้า โดยเฉพาะคลื่นแสงสีน้ำเงิน นาฬิกาในร่างกาย จะปรับตัวให้เข้ากับวัฏจักรธรรมชาติ ของกลางวันและกลางคืน และทำให้เข้านอนได้เร็วขึ้น
แต่ถ้าไม่ออกไปเห็นแสงตะวันในตอนเช้า ก็มักจะนอนดึก และถ้ายิ่งไปสัมผัสกับแสงสีน้ำเงิน ในตอนบ่ายเข้าด้วยแล้ว จะทำให้นอนหลับได้ยากขึ้น ซึ่งนักวิจัยผู้นี้แนะนำวิธีแก้ไว้ว่า ให้สวมแว่นสีส้มกันแสงสีน้ำเงิน ของตอนบ่ายก็จะช่วยได้มากทีเดียว
ถ้านอนกันได้เต็มอิ่ม ถึงคืนละ 9 ชั่วโมง ก็อาจจะมีแรงแข็งขันเต้นรำกันตลอดคืนก็ยังได้
