เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ประธานาธิบดีสหรัฐ นายบารัค โอบ่ามา พบปะกับองค์ดาไลลามะ ที่ทำเนียบไวท์เฮ้าส์ ท่ามกลางกระแสต่อต้านจากรัฐบาล และประชาชนจีน ซึ่งว่ากันว่า ยิ่งเป็นการสร้างความตึงเครียด ระหว่างจีนกับสหรัฐมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่า จุดยืนด้านสิทธิมนุษยชน ที่สหรัฐแสดงออกมาจากการพบปะกัน ระหว่างประธานาธิบดีโอบาม่ากับองค์ดาไลลามะครั้งนี้ ในที่สุดแล้ว จะช่วยกระตุ้นความสัมพันธ์ระหว่างจีน กับสหรัฐให้ก้าวหน้าต่อไป
เมื่อวันพฤหัสบดี ผู้นำทางศาสนาของธิเบต พบปะกับประธานาธิบดีสหรัฐที่ทำเนียบไวท์เฮ้าส์ ภายหลังการพบปะ องค์ดาไลลามะกล่าวขอบคุณประธานาธิบดีโอบาม่า ถึงความห่วงใยที่มีต่อธิเบตเสมอมา
เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ประธานาธิบดีโอบาม่าตัดสินใจ ไม่พบกับองค์ดาไลลามะ ก่อนการเดินทางเยือนประเทศจีนเพื่อไม่ให้จีนขุ่นเคือง การตัดสินใจในครั้งนั้น ก่อให้เกิดคำถามถึงจุดยืนด้านสิทธิมนุษยชน ของประธานาธิบดีโอบาม่า ซึ่งแตกต่างจากประธานาธิบดีสหรัฐคนก่อนๆ
คุณ Sophie Richardson แห่งกลุ่ม Human Rights Watch ฝ่ายเอเชีย กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐ เดินเกมพลาดที่ใช้มาตรการโอนอ่อน ด้านสิทธิมนุษยชนต่อจีน แทนที่จะใช้นโยบายที่ชัดเจน หนักแน่นเหมือนที่แล้วมา และว่าการที่ประธานาธิบดีโอบาม่า ตัดสินใจไม่พบกับองค์ดาไลลามะ ก่อนเดินทางเยือนจีนนั้น เป็นการแสดงภาพให้จีนเห็นว่า สหรัฐโอนอ่อนในเรื่องสิทธิมนุษยชน
สำหรับการพบปะ ระหว่างผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพทั้งสองท่าน
ประธานาธิบดีโอบาม่า มีแถลงการณ์สนับสนุน ความเป็นเอกลักษณ์ของธิเบตในทางศาสนาและวัฒนธรรม และยังขอให้จีน และธิเบตร่วมมือกันขจัดความขัดแย้งแตกต่างด้วยสันติวิธี โดยการพบปะครั้งนี้ มีขึ้นระหว่างที่สหรัฐกำลังมีความตึงเครียดกับจีน เกี่ยวกับข้อกล่าวหาว่า จีนแทรกแซงค่าเงินหยวน ตลอดจนเรื่องสหรัฐขายอาวุธให้แก่ไต้หวัน รวมทั้งเรื่องการคุมเข้มทางอินเตอร์เนตในประเทศจีน
เมื่อวันศุกร์ จีนมีแถลงการณ์ออกมาว่า การพบปะระหว่างผู้นำสหรัฐ กับผู้นำทางศาสนาของธิเบต เป็นอันตรายอย่างยิ่ง ต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐ และได้มีจดหมายเรียกตัวฑูตสหรัฐ ประจำประเทศจีนเข้าหารือ
ศาสตราจารย์ Robbie Barnett แห่งภาควิชาธิเบตศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ระบุว่าการพบปะระหว่างประนาธิบดีโอบาม่า กับองค์ดาไลลามะถือเป็นเรื่องใหญ่ เนื่องจากที่ผ่านมา จีนพยายามอย่างยิ่ง ที่จะป้องกันไม่ให้องค์ดาไลลามะเดินทางไปยังประเทศต่างๆ เพื่อพบกับบรรดาผู้นำโลก นับตั้งแต่การพบปะกับอดีตประธานาธิบดีสหรัฐ จอร์จ บุช เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ศาสตราจารย์ Barnett บอกว่าขณะนี้ เปรียบเสมือนอเมริกากำลังแสดงให้จีนเห็นว่า แรงกดดันทางการฑูตของจีน เกี่ยวกับเรื่ององค์ดาไลลามะนั้น ใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป
และในขณะที่กำลังมีความกังวลว่า ประธานาธิบดีจีน หู จิ่นเทา อาจจะยกเลิกกำหนดการเดินทาง เยือนกรุงวอชิงตันในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า แต่อาจารย์ Barry Sautman แห่งสถาบันวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยฮ่องกง ผู้เชี่ยวชาญเรื่องจีนอีกผู้หนึ่งบอกว่า เขาไม่คิดเช่นนั้น เพราะยังมีเวลาเหลืออีกมากพอ กว่าจะถึงเดือนเมษายน ซึ่งคงจะช่วยให้ความขัดแย้ง ในเรื่องนี้เย็นลงไปได้พอสมควร
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังเชื่อด้วยว่า ด้วยแรงกดดันจากประเด็นปัญหาต่างๆ ของโลก เช่นวิกฤตทางการเงิน ข้อตกลงการค้าและภาวะโลกร้อน จะทำให้ทั้งจีนและสหรัฐ ต้องหาหนทางพัฒนาความสัมพันธ์ให้รุดหน้าต่อไป
