ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ และจีนกำลังโดนปัญหาหลายปัญหารุมเร้า


ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ และจีนกำลังโดนปัญหาหลายปัญหารุมเร้า และปัญหาล่าสุดได้แก่ การที่สหรัฐประกาศว่าจะจำหน่ายอาวุธให้จีนใต้หวัน ซึ่งจีนถือว่าเป็นมณฑลหนึ่งของจีน ผู้เชี่ยวชาญยอมรับว่าจะมีการขัดแย้งเกิดขึ้น

แต่หวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ และจีนจะมั่นคงพอที่จะฝ่าฟันความคลี่คลายไปในทางลบ ที่จะเกิดตามมานั้นได้

กระทรวงกลาโหมอเมริกัน แจ้งให้รัฐสภาอเมริกันทราบอย่างเป็นทางการว่า สหรัฐจะจำหน่ายเฮลิคอปเตอร์ ขีปนาวุธอันทันสมัยสำหรับการป้องกันประเทศ อุปกรณ์สำหรับติดต่อสื่อสาร และรายการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกันให้แก่ใต้หวัน แต่การจำหน่ายอาวุธยุทโธปกรณ์ ดังที่มีแผนไว้ไม่มีเครื่องบินประจันบานไอพ่นแบบเอฟ-16 ซึ่งจีนใต้หวันต้องการนั้นรวมอยู่ด้วย

ในวันศุกร์ พลเอกเจมส์ โจนส์ นายทหารนอกราชการผู้เป็นที่ปรึกษา ฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีบารัค โอบามากล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ และจีนเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างสุดๆ และติดอันดับต้นๆ สำหรับสหรัฐ

เวลาเดียวกัน ประธานาธิบดีใต้หวัน หม่า หยิงเจียว กล่าวว่าการที่สหรัฐตัดสินใจ จำหน่ายอาวุธเหล่านั้นให้ใต้หวัน จะช่วยด้านการป้องกันของใต้หวัน และเป็นเครื่องป้องปรามที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้ใต้หวันเกิดความมั่นใจ และรู้สึกว่าตนมีความมั่นคงปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ทางด้านจีน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน เหอ หย่าเฟ่ เชิญเอกอัครราชทูตอเมริกันประจำจีน จอน ฮันท์สแมน ไปพบในวันเสาร์และเตือนว่า การจำหน่ายอาวุธให้ใต้หวันจะเกิดผลกระทบ ต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนอย่างรุนแรง

เขากล่าวด้วยว่า จีนมองเห็นว่า การตัดสินใจของสหรัฐเป็นการก้าวก่ายแทรกแซง กิจการภายในของจีน และจีนตอบโต้ด้วยการระงับการแลกเปลี่ยนทางทหาร อีกทั้งยังคุกคามว่าจะคว่ำบาตร์บริษัทอเมริกันต่างๆ ที่จำหน่ายอาวุธให้แก่ใต้หวัน ตลอดจนกล่าวเป็นนัยด้วยว่า การขายอาวุธจะมีผลกระทบในทางลบ ต่อความสัมพันธ์โดยรวมระหว่างจีนและสหรัฐด้วย

ศาสตราจารย์สอนวิชาวิเทศศึกษา ชูเฟิ้ง แห่งมหาวิทยาลัยปักกิ่งกล่าวว่าจีนมองเห็นว่า ใต้หวันเป็นปัญหาใหญ่ที่สุด ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐ

ท่านอาจารย์กล่าวไว้ตอนนี้ว่า "ถ้าสหรัฐต้องการให้จีนร่วมมือ สหรัฐควรปฏิบัติต่อจีนให้ดีกว่านี้ และเปลี่ยนนโยบาย เกี่ยวกับการจำหน่ายอาวุธให้ใต้หวัน ซึ่งดำเนินมาสามสิบปีแล้วนั้นเสีย"

ส่วนพลเรือเอก ไม๊ค มัลเล่น กล่าวต่อผู้ฟังที่ศูนย์ยุทธศาสตร์ และวิเทศศึกษาในกรุงวอชิงตันว่า เขารู้สึกวิตกกังวลโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับเรื่องการแลกเปลี่ยนในระดับการทำงาน ระหว่างฝ่ายทหารอเมริกันและของจีน และว่าเขาไม่ต้องการให้เกิดความผิดพลาด เหมือนเมื่อครั้งที่สหรัฐแช่เย็นความสัมพันธ์กับปากีสถานอีก ซึ่งเป็นเหตุให้นายทหารของทั้งสองประเทศ ไม่รู้จักมักคุ้นกันเมื่อถึงคราวที่เกิดความจำเป็น จะต้องทำงานร่วมกัน เพื่อปราบศัตรูของทั้งสองประเทศให้พ่ายแพ้ไป

ในระยะไม่กี่ปีมานี้ จีนเพิ่มงบกลาโหม และขีดความสามารถทางทหารอย่างมากมาย และมีแผนจะทำเช่นนั้นต่อไปอีก ซึ่งจะทำให้จีนมีวิสัยว่า จะกลายเป็นคู่แข่งของสหรัฐ ซึ่งยังคงมีเจตนารมณ์ที่จะยังคงเป็นประเทศ ที่มีอิทธิพลครอบงำในย่านมหาสมุทรแปซิฟิก

ศาสตราจารย์สอนวิชาวิเทศสัมพันธ์ จิ๋น คานหรง แห่งมหาวิทยาลัย เหรินหมินในกรุงปักกิ่ง กล่าวไว้ในตอนนี้ว่า "เป็นเรื่องแน่นอนว่า จีนจะต้องตอบโต้ การที่สหรัฐจำหน่ายอาวุธให้ใต้หวันครั้งนี้ อย่างรุนแรงมากกว่าคราวก่อนๆ และว่าในบั้นปลายสหรัฐ จะไม่สามารถทนรับผลจากการกระทำของตนเองได้"



XS
SM
MD
LG