หนึ่งปีของการทำงาน ในตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ของประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ผ่านไปแล้ว ว่ากันว่าประธานาธิบดีโอบาม่า ได้พัฒนาลักษณะหรือลีลาความเป็นผู้นำ ที่มีเอกลักษณ์ขึ้นมาได้ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งหลายคนบอกว่า เป็นเพราะประสบการณ์ที่ผ่านมา ในช่วงชีวิตของผู้นำคนปัจจุบันของอเมริกานั่นเอง
เมื่อเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีของประชาชน ผู้เข้าร่วมในพิธีสาบานตน เข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีโอบาม่า เมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้วสงบลง ก็ถึงเวลาที่ผู้นำคนใหม่ ของอเมริกา จะต้องรับศึกหนักจากปัญหาทั้งภายใน และภายนอกประเทศ
และในขณะที่ต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ลักษณะหรือลีลาความเป็นผู้นำ อันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ของประธานาธิบดีคนใหม่นี้ ก็ยิ่งปรากฎชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จนหลายคนตั้งฉายาให้ว่า no-drama Obama หรือ โอบาม่าผู้เอาจริงเอาจัง
คุณ Kuulei Stockman ชาวรัฐฮาวาย ผู้บริหารโรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตัน บอกว่า ประธานาธิบดีที่เกิดในฮาวายผู้นี้ ได้นำวัฒนธรรม และทัศนคติแบบชาวฮาวายที่สุขุม เยือกเย็น และเป็นกันเองมายังไวท์เฮาส์ด้วย ดังจะเห็นได้ทุกวัน ที่ท่านปรากฎตัวหรือกล่าวปราศรัย และว่าประธานาธิบดีโอบาม่านั้น ใช้ชีวิต กินอาหาร หรือแม้แต่หายใจเข้าออก เป็นวัฒนธรรมแบบอโลฮ่า ที่ชาวฮาวายหมายถึง ลมหายใจแห่งชีวิต โดยวัฒนธรรมแบบอโลฮ่านั้น คือการรวมกลุ่มเป็นชุมชน คือความเชื่อว่าทุกคนควรก้าวไปพร้อมๆ กัน
ทางด้านคุณ Ken Walsh ผู้เขียนบันทึกเรื่องราว เกี่ยวกับประธานาธิบดีโอบาม่าลงในนิตยสาร USNews และ World Report บอกว่าสามารถสืบสาวความเป็นชาวเกาะฮาวาย ได้จากตัวผู้นำคนปัจจุบันของสหรัฐผู้นี้ จากวิธีคิดที่ค่อนข้างเป็นระเบียบแบบแผน กว้างไกล และพยายามให้ทุกคนได้ทำงานด้วยตนเอง และให้มีส่วนร่วมเสียสละ ซึ่งมาจากประสบการณ์โดยตรงในฮาวาย
ลักษณะหรือลีลาเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าเพิ่งปรากฎในตอนที่ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีแล้ว แต่คุณ Johnson-Weinberger อดีตลูกศิษย์ลูกหาของประธานาธิบดีโอบาม่า ที่วิทยาลัยกฎหมาย มหาวิทยาลัยชิคาโก้เล่าว่า อาจารย์โอบาม่านั้น มักจะสนับสนุนให้เกิดการระดมสมองในชั้นเรียน และให้นักศึกษาพยายามค้นคว้าหาข้อมูลทุกอย่าง เท่าที่จะทำได้ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ ที่จะเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกัน ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีหรือที่ปรึกษา
คุณ Johnson-Weinberger บอกว่าหากเป็นเช่นนั้นจริง ก็ไม่น่าจะมีรัฐมนตรีท่านใด ที่สามารถนิ่งเงียบไม่ออกความเห็น และรอพยักหน้าเห็นด้วยเมื่อสิ้นสุดการประชุมได้แน่ๆ แต่พวกเขาจะต้องเร่งทำงานอย่างแข็งขัน กันเลยทีเดียว ซึ่งก็เป็นเช่นเดียวกับที่บรรดาที่ปรึกษาระดับสูง ของทำเนียบไวท์เฮ้าส์เปิดเผยว่า การทำงานของประธานาธิบดีท่านนี้ เปรียบเสมือนทนายความ ที่กำลังชำแหละคดีต่างๆ ออกอย่างละเอียด และมอบหมายให้แต่ละคนหาข้อมูล หรือแสดงความเห็นให้มากที่สุด
การทำงานของผู้นำแต่ละคนนั้น ก็คือการนำประสบการณ์ทั้งชีวิตมาปรับใช้ ซึ่งในกรณีของประธานาธิบดีโอบาม่านั้น ผลที่ออกมาก็คือ ลีลาที่เป็นเอกลักษณ์ ที่นักวิจารณ์หลายคนบอกว่า วางเฉยเกินไปและไร้ซึ่งความกระตือรือร้น แต่คุณ Ken Walsh บอกว่านั่นคือความเป็นโอบาม่าอย่างแท้จริง ที่ไม่ควรเปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ตาม คำถามก็คือความสุขุมเยือกเย็นในแบบโอบาม่า หรือที่ฝรั่งเรียกว่า cool นี้ จะทำให้การทำงานปีที่ 2 ในตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ผ่านฉลุยไปได้หรือไม่นั้น ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องรอดูคำตอบกันต่อไป
