ลิ้งค์เชื่อมต่อ

การพยายามหาวิธีป้องกันน้ำท่วมขัง ตามถนนหนทางหลังเกิดพายุในรัฐแมรี่แลนด์


น้ำที่ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนในช่วงที่เกิดพายุนั้น อาจเป็นสาเหตุหนึ่ง ของการเกิดมลพิษตามเมืองต่างๆ ที่ตามมาหลังน้ำท่วม และในบางครั้งอาจเป็นตัวการทำลายชีวิตสัตว์น้ำได้อีกด้วย

แต่ที่เมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งในรัฐแมรี่แลนด์ กำลังพยายามหาวิธีป้องกันน้ำท่วมขัง ตามถนนหนทางต่างๆ หลังจากเกิดพายุ ซึ่งอาจเป็นตัวอย่างที่ดี ในการแก้ไขปัญหาเดียวกันนี้ในเมืองอื่นๆ

เมื่อใดก็ตามที่ฝนตกหนักหรือเกิดพายุ หลายๆ เมืองในหลายประเทศ ที่ระบบการระบายน้ำไม่ดีก็จะมีน้ำท่วมขังอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับที่เมือง Edmonston เมืองเล็กๆในรัฐแมรี่แลนด์ ไม่ไกลจากกรุงวอชิงตัน ซึ่งมีประชากรเพียง 1,400 คนและมีลักษณะภูมิประเทศอยู่ในระดับต่ำ นายกเทศมนตรีเมือง Edmonston นาย Adam Ortiz เล่าว่า ทุกครั้งที่ฝนตกหนัก สายน้ำจะไหลบ่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน ลานจอดรถ ทางด่วน ศูนย์การค้าและถนนหนทางต่างๆ บ้านเรือนอย่างน้อย 30-56 หลัง จะจมอยู่ใต้น้ำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

บ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมในเมือง Edmonston นั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ของพื้นที่ลุ่มน้ำทั้งหมดในแถบชานกรุงวอชิงตัน คุณ Jim Connolly ผู้อำนวยการบริหารของชุมชนพื้นที่ลุ่มน้ำ Anacostia กล่าวว่า นอกจากน้ำที่ไหลบ่าหลังฝนตกหนัก จะทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่แล้ว ยังกัดเซาะหน้าดิน และขยะที่มากับน้ำยังเป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำอีกด้วย เพราะน้ำมันหรือคราบสกปรกที่ออกมาจากรถยนต์ เศษขยะตามถนน ตลอดจนสารตกค้างจากยาฆ่าแมลง ต่างลอยปะปนมากับน้ำที่ท่วมขัง

เมือง Edmonston แก้ไขปัญหาน้ำท่วมดังกล่าว ด้วยการสร้างสถานีสูบน้ำแห่งใหม่ เพื่อทำให้ระดับน้ำลดลง และยังพยายามใช้แนวทางใหม่ๆในการป้องกันน้ำไหลท่วม คือการปรับปรุงถนนหลักเสียใหม่ และสร้างแนวเกาะปลูกต้นไม้ตามไหล่ทาง และเหนือท่อระบายน้ำเพื่อคอยดูดซับน้ำ ไม่ให้ไหลบ่าเข้าสู่ท่อระบายน้ำและแม่น้ำโดยตรง โดยแนวเกาะที่ว่านี้จะช่วยดูดซับน้ำส่วนใหญ่เอาไว้

นายกเทศมนตรี Ortiz อธิบายว่า ภายในแนวเกาะนั้นจะปลูกต้นไม้พันธุ์พื้นเมือง พร้อมทั้งบรรจุก้อนกรวด และปุ๋ยธรรมชาติเอาไว้เพื่อใช้ดูดซับและกรองน้ำ สำหรับพื้นถนนนั้นจะใช้คอนกรีต แบบที่น้ำสามารถซึมผ่านได้ ก่อนที่น้ำที่ผ่านการดูดซับ และกรองแล้วทั้งหมดจะไหลไปรวมกัน ที่ระดับพื้นผิวของน้ำบาดาล ซึ่งนายกเทศมนตรีเมือง Edmonston บอกว่าทั้งหมดเป็นวิธีการดูดซับน้ำตามธรรมชาติ แบบเดียวกับที่เคยใช้มาเป็นร้อยปี โดยเชื่อกันว่าระบบระบายน้ำนี้ จะสามารถดูดซับน้ำที่ไหลท่วมหลังฝนตกหนักได้ราว 85-90% โดยใช้เงินลงทุนไม่มากอย่างที่คิด

คุณ Dominique Lueckenhoff เจ้าหน้าที่บริหารของสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า วิธีการนี้ไม่ได้ใช้เงินมากมายนัก เมื่อเทียบกับการปรับปรุงถนน และปกป้องสิ่งแวดล้อมนะครับ ในขณะเดียวกัน การที่จะสามารถนำแนวทางหรือระบบดูดซับน้ำดังกล่าว มาใช้ให้เกิดประสิทธิผลอย่างแพร่หลายนั้น คุณ Allen Hance จากบริษัทสินเชื่อ Chesapeake Bay มีคำแนะนำว่า ชุมชนอื่นๆ น่าจะลองพิจารณาวางโครงร่างการสร้างถนน เสียใหม่ตามแนวทางของเมือง Edmonston นี้ดูบ้าง

สำหรับท่านผู้ฟังที่สนใจว่า วิธีการนี้จะใช้กับที่เมืองไทยได้หรือไม่นั้น สามารถเข้าไปหาข้อมูล และดูโครงสร้างพิมพ์เขียวของแนวเกาะปลูกต้นไม้ ดูดซับน้ำนี้ได้ทางอินเตอร์เนตที่เว็บไซต์ LID Stormwater.net/ treeboxfilter หรือหารายละเอียด ด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติมได้ที่ Environment report.org



XS
SM
MD
LG