นางฮิลลารี่ คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวปราศรัยที่กรุงวอชิงตัน ว่าสหรัฐจะให้ความสำคัญ เรื่องความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาในระดับเดียว กับการทูตและการทหารในนโยบายต่างประเทศของสหรัฐ
เพราะเป้าหมายของสหรัฐ ซึ่งอยากเห็นสังคมโลกที่ปลอดภัย เจริญก้าวหน้า เป็นประชาธิปไตย และทัดเทียมกันนั้นคงจะเกิดขึ้นไม่ได้ หากราวหนึ่งในสามของพลเมืองโลกยังอยู่ในฐานะที่ยากจน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐชี้ด้วยว่า สำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐหรือ USAID จะต้องพัฒนาตัวเอง ให้มีฐานะเป็นองค์กรด้านการพัฒนาชั้นนำ และสหรัฐต้องใช้แนวคิดใหม่เรื่องยุทธศาสตร์ การพัฒนาระหว่างประเทศ ซึ่งไม่เน้นเฉพาะที่ตัวเลขความช่วยเหลือ แต่ต้องมองที่ความสำเร็จของโครงการพัฒนาอย่างยั่งยืน และว่ารูปแบบความช่วยเหลือของสหรัฐต้องไม่ยึดที่สูตรตายตัว แต่ต้องปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ และความเหมาะสมของประเทศผู้รับ นอกจากนั้นรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐยังชี้ว่า สตรีและเด็กผู้หญิงซึ่งเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่ถูกละเลยมากที่สุด จะต้องเป็นเป้าสำคัญและเป็นผู้รับประโยชน์จากความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาดังกล่าว
รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศจะเพิ่มเงินช่วยเหลือระหว่างประเทศ ที่ไม่ใช่ด้านการทหารขึ้นอีกเท่าตัว เป็นปีละห้าหมื่นล้านดอลล่าร์ ภายในปี 2555 และในคำปราศรัยที่สถาบัน Peterson Institute of International Economics ในกรุงวอชิงตันครั้งนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศฮิลลารี่ คลินตันได้ย้ำเรื่องบูรณการของสามเสาหลักในนโยบายต่างประเทศสหรัฐ หรือสาม D คือ Development หรือการพัฒนา Diplomacy คือการฑูต และ Defense ซึ่งหมายถึงการทหารเข้าด้วยกัน ในขณะที่จะเน้นเรื่องการส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ในเป้าหมายด้านการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐด้วย
รับฟังรายละเอียดเพิ่มเติมจากคุณจำเริญ ตัณฑ์สมบุญ
