ผู้ลี้ภัยชาวเกาหลีเหนือที่เดินทางมาถึงประเทศไทย มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ผู้ลี้ภัยชาวเกาหลีเหนือที่เดินทางมาถึงประเทศไทย มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาหลบหนีความยากจน และการกดขี่ทางการเมืองในเกาหลีเหนือ

ผู้สื่อข่าว วอยซ ออฟ อเมริกา แดเนียล เชิร์ฟไปเยือนภาคเหนือของประเทศไทย ซึ่งเป็นบริเวณที่ชาวเกาหลีเหนือเดินทางมาลี้ภัยเกือบทุกสัปดาห์ และส่งรายงานที่คุณเจษฎา สีวาลีของ วอยซ ออฟ อเมริกาภาคภาษาไทยจะนำมาถ่ายทอดเสนอ

ชาวเกาหลีเหนือสองคน โดนกันมิให้พูดคุยกับผู้สื่อข่าวและนักกิจกรรมด้านผู้ลี้ภัยคณะหนึ่ง ผู้พยายามจะพูดคุยกับชาวเกาหลีเหนือทั้งสองคนนั้น

ชาวเกาหลีเหนือสองคนนั้น ยืนอยู่ข้างถนนตามแนวพรมแดนไทยลาว ชาวเกาหลีเหนืออีกหลายคนวิ่งกรูกันออกมาขณะที่บรรดาผู้สื่อข่าวเดินเข้าไปใกล้พวกเขา

สตรีผู้หนึ่งเล่าเรื่องให้ฟังเป็นภาษาจีนว่า พวกเธอเพิ่งมาถึงที่ตรงนั้น และถามว่าพวกเธออยู่ที่ไหนกันแน่? แต่เธอไม่ต้องการบอกว่า พวกเธอมาจากที่ไหนหรือมาถึงที่นั่นได้อย่างไร?

ผู้ลี้ภัยเหล่านั้นมาถึงประเทศไทยโดยข้ามแม่น้ำโขงมาจากฝั่งลาวหลังจาก

เดินทางผ่านเขตเมืองจีนที่เต็มไปด้วยอันตรายมา

เจ้าหน้าที่ของกรมตรวจคนเข้าเมืองของไทยกล่าวว่า นำตัวชาวเกาหลีเหนือไผควบคุมไว้หนึ่งพันกว่าคนแล้วในปีนี้ ซึ่งมากกว่าเมื่อปีพุทธศักราช 2551 ซึ่งมีจำนวนไม่ถึงสี่ร้อยคน ในปีนั้น จีนรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เพราะจีนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกนั่นเอง

สารวัตรสุธรรม ฉัตราสากล่าวว่าผู้ลี้ภัยชาวเกาหลีเหนือ เดินทางมาประเทศไทยเพราะประเทศไทยผิดกับจีนและลาว กล่าวคือประเทศไทยจะไม่ส่งตัวพวกเขากลับไปเกาหลีเหนือ ซึ่งพวกเขาจะเผชิญกับการถูกประหารชีวิต สารวัตรสุธรรมกล่าวด้วยว่า ประเทศไทยไม่มีนโยบายส่งพวกเขากลับไปเกาหลีเหนือ เราต้องการดูแลพวกเขาจนกระทั่งมีประเทศที่สามยอมรับพวกเขา เรื่องนี้ผิดกับกรณีของคนที่มาจากกัมพูชาหรือลาว ชาวเกาหลีเหนือเดินทางมาประเทศไทย เพราะปัญหาทางการเมือง ด้วยเหตุนี้ เราต้องการส่งพวกเขาต่อไปยังประเทศที่สาม

อย่างไรก็ดี ประเทศไทยปฏิบัติต่อพวกเขา ในฐานะเป็นผู้เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายก่อนที่พวกเขาจะได้รับอนุญาตให้เดินทางไปยังเกาหลีใต้ หรือประเทศอื่นๆ เมื่อเดือนพฤศจิกายน นักนิติบัญญัติจากสิบสองประเทศมาประชุมที่ประเทศไทย

เพี่อกระตุ้นให้เกิดความสนใจเกี่ยวกับความเดือดร้อน ของชาวเกาหลีเหนือซึ่งเป็นประเทศที่ยากจนและกดขี่ข่มเหงพลเมืองของตน นักนิตืบัญญัติจากเกาหลีใต้ กิม ยอง-เตกล่าวว่าผู้ลี้ภัยชาวเกาหลีเหนือประสพกับการปฏิบัติในทางที่มิชอบอยู่เสมอๆ เพราะการที่พวกเขาเป็นคนเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และว่าเราจำเป็นต้องร่วมมือกันและกัน เพื่อกดดันจีนหรือรัฐบาลของประเทศอื่นๆ เพื่อมอบสถานภาพที่ถูกกฎหมายให้พวกเขาและเราจำเป็นต้องเสนอเงื่อนไขบางอย่าง เพื่อให้พวกเขาสามารถยังชีพได้ต่อไปเรื่อยๆ

ตำรวจที่อำเภอเชียงแสนสอบปากคำชาวเกาหลีเหนือสิบสี่คน ซึ่งมีเด็กรวมอยู่ด้วยสองคน

เจ้าหน้าที่คาดหมายว่าจำนวนผู้ลี้ภัยชาวเกาหลีเหนือ ที่เลือกการเดินทางเสี่ยงอันตรายไปสู่เสรีภาพนั้นมีจำนวนมากยิ่งขึ้น