ลิ้งค์เชื่อมต่อ

การถกเถียงเรื่องความเข้มงวด ในการตรวจผู้โดยสารที่สนามบินต่างๆ ในสหรัฐ


แผนการวางระเบิดเครื่องบิน โดยชายชาวไนจีเรียเมื่อวันคริสต์มาส ได้ก่อให้เกิดกระแสการถกเถียง เกี่ยวกับเรื่องความเข้มงวดของการตรวจผู้โดยสาร ที่สนามบินต่างๆ ในสหรัฐขึ้นมาอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าววีโอเอไมเคิ่ล โบว์แมน ส่งรายงานมาจากกรุงวอชิงตัน ว่า ปัจจุบันมีเพียงไม่กี่สนามบินในสหรัฐ ที่มีเครื่องตรวจสอบร่างกายผู้โดยสารอย่างละเอียด แบบฉายภาพทั้งตัว ในขณะที่รัฐสภาอเมริกัน ก็ยังมิได้มีกฎหมายบังคับให้ใช้เทคโนโลยีดังกล่าว อย่างแพร่หลาย

คุณผู้ฟังที่โดยสารเครื่องบินเป็นประจำ คงจะคุ้นเคยกับการเดินผ่านเครื่องตรวจจับโลหะ ก่อนที่จะเข้าสู่อาคารผู้โดยสารกันเป็นอย่างดี แต่ในยุคที่ระเบิดสามารถสร้างได้ง่ายๆ จากพลาสติกและส่วนประกอบทางเคมีนั้น ระบบตรวจจับโลหะก็ดูจะล้าสมัยไปแล้ว คุณ Kip Hawley อดีตผู้อำนวยการสำนักงานรักษาความปลอดภัย ด้านการคมนาคมของสหรัฐหรือ TSA ซึ่งควบคุมการตรวจผู้โดยสารและสัมภาระ ที่จะนำขึ้นเครื่องบิน กล่าวว่าจุดที่เปราะบางที่สุด ที่จำเป็นต้องมีการจัดการอย่างเร่งด่วน คือการติดวัตถุระเบิดไว้กับตัว

ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่เนเธอร์แลนด์ ได้นำเครื่องตรวจสอบร่างกายผู้โดยสารอย่างละเอียด แบบฉายภาพทั้งตัวมาใช้แล้ว สำหรับตรวจผู้โดยสารทุกคนที่จะเดินทางไปยังสหรัฐ ซึ่งคุณ M.J Gohel ผู้เชี่ยวชาญด้านลัทธิการก่อการร้าย แห่งมูลนิธิเอเชียแปซิฟิกในกรุงลอนดอน กล่าวชื่นชมต่อมาตรการใหม่ของรัฐบาลเนเธอร์แลนด์

คุณ Gohel บอกว่า เครื่องตรวจจับแบบเอกซเรย์นี้ มีประสิทธิภาพสูง สามารถแสดงให้เห็นทุกส่วนของร่างกาย รวมทั้งอุปกรณ์ทุกอย่าง ที่ติดอยู่กับตัวผู้โดยสาร หรือแม้แต่ที่อยู่ภายในร่างกายก็ตาม ซึ่งหากนำมาใช้ตรวจระเบิดที่นายอูมาร์ ฟารูค อับดุลมูทาลลับ นำติดตัวขึ้นเครื่องก็สามารถตรวจจับได้อย่างแน่นอน แต่เสียดายที่ตอนนั้นเพิ่งจะอยู่ในช่วงทดลองใช้เท่านั้น

ปัจจุบัน มีสนามบินไม่ถึง 24 แห่งในสหรัฐที่ใช้เครื่องตรวจสอบร่างกาย แบบฉายภาพทั้งตัว ซึ่งมีราคาประมาณ 170,000 ดอลล่าร์ ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นปี สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้มีมติห้ามบังคับให้ใช้เครื่องฉายภาพแบบละเอียดนี้ อย่างแพร่หลายตามสนามบินต่างๆ ซึ่งหนึ่งใน สส.จากพรรครีพับลิกัน ที่สนับสนุนคำสั่งห้ามดังกล่าวให้เห็นผลว่า เหมือนเป็นการค้นตัวแบบเปลื้องผ้าผู้โดยสาร ทางจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งไม่เหมาะสมกับคนอเมริกัน และแนะนำให้ใช้สุนัขดมกลิ่น หรือวิธีการอื่นที่ไม่รุกล้ำจนเกินไป มาใช้ในการตรวจจับวัตถุระเบิดแทน ในณะที่สหภาพสิทธิส่วนบุคคลอเมริกันหรือ ACLU แถลงว่า การตรวจร่างกายผู้โดยสารแบบฉายภาพทั้งตัวนั้น เป็นการลบหลู่เกียรติ และทำให้ผู้โดยสารขายหน้า ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นกับประชาชนในประเทศเสรี

อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุการณ์เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว บนเครื่องบินสายการบิน Northwest ประธานาธิบดีสหรัฐ บารัค โอบาม่า ได้ออกมาชี้ว่า เป็นเพราะความล้มเหลว ของระบบรักษาความปลอดภัยสหรัฐ พร้อมให้สัญญาว่า รัฐบาลจะทำทุกวิถีทางเพื่อป้องกัน ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย ในขณะเดียวกัน ในส่วนของประชาชนนั้น ดูเหมือนบรรดาผู้โดยสารเครื่องบินในช่วงวันหยุดปลายปีนี้ ต่างมีความเห็นแตกออกเป็น 2 ฝ่าย คือฝ่ายที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัย กับฝ่ายที่เป็นห่วงเรื่องสิทธิ ความเป็นส่วนตัวของตน

สุภาพสตรีเหล่านี้ มีทั้งผู้ที่สนับสนุนและคัดค้าน การใช้เครื่องตรวจสอบร่างกายแบบฉายภาพทั้งตัว แต่ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ ผู้เชี่ยวชาญหลายคน รวมทั้งอดีตนักวิเคราะห์ ของสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐหรือ CIA ก็เตือนว่า ไมว่าจะนำมาตรการรักษาความปลอดภัยแบบใดมาใช้ กลุ่มผู้ก่อการร้าย ก็จะสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์แบบใหม่ มาเอาชนะได้เช่นกัน นอกเสียจากว่าผู้โดยสารจะยินยอมรอคอยอย่างอดทน กับระบบการตรวจสอบก่อนขึ้นเครื่องบินที่ใช้เวลานาน และอาจจะรุกล้ำความเป็นส่วนตัว แต่ก็สามารถรับรองความปลอดภัยได้

ไม่ว่าจะมีการนำเครื่องตรวจสอบร่างกาย แบบฉายภาพทั้งตัวมาใช้อย่างแพร่หลาย ตามสนามบินต่างๆ ในอเมริกาหรือไม่ แต่ก็เชื่อแน่ว่าประเด็นนี้ คงจะถูกหยิบยกขึ้นมาหารือในการอภิปรายของรัฐสภาอเมริกัน ที่คาดว่าจะมีขึ้นในช่วงต้นปีหน้าอย่างแน่นอน


XS
SM
MD
LG