ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ประวัติความเป็นมาของนาย Umar Farouk Abdulmutallab ผู้โดนตั้งข้อหาพยายามระเบิดเครื่องบินโดยสารสายการบิน Northwest


ชายหนุ่มชาวไนจีเรียวัย 23 ปี ผู้โดนตั้งข้อหาว่า พยายามจะระเบิดเครื่องบินโดยสารไอพ่น ของสายการบินนอร์ธ เวสท์ ซึ่งบินไปสู่จุดหมายปลายทาง คือนครดีทรอยต์เมื่อวันศุกร์นั้น เป็นผู้ที่มาจากครอบครัวชาวไนจีเรียผู้มีฐานะดี เขาเข้าศึกษาตามสถานศึกษาในหลายประเทศ เขากลายเป็นคนที่เอาแน่ไม่ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเหตุให้ครอบครัวของเขา นำความไปแจ้งต่อเจ้าหน้าที่

ตอนที่นายอูมาร์ ฟารุค อับดุลมูตาลหลับเป็นวัยรุ่น เขาเข้าเรียนที่โรงเรียนชั้นดีของอังกฤษ ณ กรุงโลเม่ ประเทศโตโก เขาเรียนหนังสือเก่งมาก และเล่นบาสเก็ตบอลก็เก่งด้วย

แต่ครูของเขาคนหนึ่งจำได้ว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ซึ่งผู้ก่อการร้ายโจมตีในสหรัฐเมื่อวันที่ 11 เดือนกันยายน ปีพุทธศักราช 2544 นายอูมาร์ ฟารุค อับดุลมูตาล หลับกล่าวปกป้องขบวนการทาเล็บบันในอัฟกานิสถานในขณะที่เพื่อน นักเรียนด้วยกัน คิดว่าขบวนการดังกล่าว ฝักใฝ่ความรุนแรงจัดมากทีเดียว มีรายงานด้วยว่า เขาเริ่มพร่ำสอนความคิดแบบอิสลามหัวรุนแรง ให้นักเรียนคนอื่นๆ ฟัง นายอูมาร์ ฟารุค อับดุลมูตาลหลับไปศึกษาต่อที่กรุงลอนดอน และประเทศดูไบ แต่ทว่าทอดทิ้งการศึกษาตามที่เหล่านั้นกลางคัน เมื่อเร็วๆ นี้เขาเดินทางไปเยเมน ซึ่งเป็นที่ๆ เขาบอกว่าเขาเรียนฟรีทั้งๆ ที่ผู้ปกครองของเขาไม่เห็นด้วย

ศาสตราจารย์ชาวไนจีเรียโบลาจี อลูโค ผู้สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในกรุงวอชิงตันกล่าวว่า " นายอูมาร์ ฟารุค อับดุลมูตาลหลับ เดินทางไปไหนมาไหนได้ตามสบาย เพราะคุณพ่อของเขาเป็นอดีตรัฐมนตรี และเป็นประธานของธนาคารใหญ่เหลือเกินแห่งหนึ่ง ในไนจีเรียมาจนถึงวันที่ 15 เดือนธันวาคม คุณพ่อของเขามีแผนจะเข้าดำรงตำแหน่ง ประธานของธนาคารอิสลามแห่งใหม่และกล่าวด้วยว่า คุณพ่อของนายอูมาร์ ฟารุค อับดุลมูตาลหลับ มีบุตร 16 คน ซึ่งส่วนใหญ่ประสพความสำเร็จ"

ระหว่างที่อยู่ในประเทศเยเมนในปีนี้ มีรายงานว่านายอูมาร์ ฟารุค อับดุลมูตาล หลับ เลิกติดต่อกับครอบครัวของเขา โดยให้เหตุผลว่าเขาพบชีวิตใหม่แล้ว คุณพ่อของเขาเตือนให้สถานเอกอัครราชทูตอเมริกัน ในไนจีเรียทราบว่า เขาวิตกกังวลเกี่ยวกับความประพฤติของบุตรชายของเขา

เมื่อวันอาทิตย์ เจ้าหน้าที่สหพันธ์นำตัวนายอูมาร์ ฟารุค อับดุลมูตาลหลับ จากโรงพยาบาล ที่แพทย์ให้การบำบัดรักษาแผลอันเกิดจากการถูกไฟลวก แล้วนำไปคุมขังไว้ที่เรือนจำสหพันธ์แห่งหนึ่งในรัฐมิชิแกน ข้อกล่าวหาเขานั้นมีโทษจำคุกถึง 20 ปี

ในวันจันทร์ ครอบครัวของผู้ต้องหากล่าวว่า จะให้ความร่วมมือในการสอบสวนอย่างเต็มที่ และแสดงความดีใจที่ไม่มีผู้ใดเสียชีวิต

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ ทำให้ชาวไนจีเรียในสหรัฐรู้สึกตกใจ และรันทดใจ

คุณอิกเนเชียส อัคปาบี ผู้ที่เพื่อนๆ ตั้งฉายาให้ว่า "นายกเทศมนตรีชาวไนจีเรีย" แห่งกรุงวอชิงตันกล่าวไว้ตอนนี้ว่า "ชาวไนจีเรียไม่มีใครเป็นผู้ก่อการร้าย เราอาจทำบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ดี แต่ไม่ใช่พยายยามระเบิดเครื่องบิน ถ้าคุณรู้จักชาวไนจีเรีย และติดตามดูกิจกรรมของพวกเขาให้ดีๆ แล้วจะเห็นว่า พวกเราวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลไนจีเรียอย่างรุนแรง และถ้าใครอยากจะทำอะไรสักอย่างละก้อ ก็ควรทำต่อรัฐบาลไนจีเรีย ไม่ใช่ทำต่อคนที่บริสุทธิ์ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ดังนั้นเมื่อผมได้ยินข่าวนี้ สิ่งแรกที่ผมคิดก็คือ เขาอาจจจะไม่ใช่ชาวไนจีเรีย ประการที่สอง ถ้าเขาเป็นชาวไนจีเรีย ก็ต้องเป็นชาวไนจีเรียผู้เสียสติแน่ๆ"

ส่วนคุณอีซียเคล มาชาม นายกสมาคมชาวไนจีเรียเหนือที่รัฐจอร์เจีย ทางภาคใต้ของสหรัฐกล่าวว่า "พวกเราชาวไนจีเรียนับพันๆ คนในสหรัฐล้วนแต่เป็นคนเคารพกฎหมาย เราทำทุกทางเพื่อสนับสนุนสหรัฐ ทั้งในแง่เศรษฐกิจและด้านอื่นๆ ดังนั้น ผมมั่นใจว่า ชาวอเมริกันผู้มีเจตนาดีคงจะทราบความแตกต่าง เกี่ยวกับคนผู้ฝักใฝ่ความรุนแรง ซึ่งผมคิดว่ามีอยู่ทั่วไป แม้แต่ในสหรัฐเอง และผมมั่นใจว่า ชาวอเมริกันคงจะแยกออกว่า การกระทำของคนๆ เดียวนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ชาวไนจีเรียอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวไนจีเรียผู้มีเจตนาดีจะเห็นด้วย เขาหวังว่าคนคงไม่มองไนจีเรีย ประเทศซึ่งมีประชากรมากที่สุดในแอฟริกาว่า เป็นแหล่งเพาะกิจกรรมการก่อการร้ายไปทั่วโลก ของพวกอิสลามผู้ฝักใฝ่ความรุนแรง"

หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว สายการบิน และท่าอากาศยานต่างๆ ทั้งในสหรัฐและตามประเทศต่างๆ รักษาความมั่นคงปลอดภัยอย่างกวดขันยิ่งขึ้น


XS
SM
MD
LG